เอเวอร์แกรนด์ ขายหุ้นธนาคารเสิ้งจิง 5.2 หมื่นล้าน หาเงินใช้หนี้

REUTERS/Aly Song

“เอเวอร์แกรนด์”  ตัดขายหุ้น “ธนาคารเสิ้งจิง”จำนวน19.93% มูลค่า 9.99 พันล้านหยวน ให้กับบริษัทบริหารสินทรัพย์ของรัฐบาลจีน เพื่อหาเงินใช้หนี้

วันที่ 29 กันยายน 2564 สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ยักษ์อสังหาริมทรัพย์อันดับ 2 ของจีน “ไชน่า เอเวอร์แกรนด์” จะขายหุ้นมูลค่า 9.99 พันล้านหยวน (5.2 หมื่นล้านบาท) ที่อยู่ในธนาคารเสิ้งจิง ให้กับบริษัทบริหารสินทรัพย์ของรัฐบาลจีน เพื่อระดมเงินทุนสำหรับการชำระหนี้

ทั้งนี้ หุ้นที่เอเวอร์แกรนด์ถือครองในธนาคารเสิ้งจิง 1.75 พันล้านหุ้น ซึ่งคิดเป็น 19.93% ของทุนเรือนหุ้นในธนาคารดังกล่าวนั้น จะถูกขายให้กับบริษัท “เชนยาง เชงจิง ไฟแนนซ์ อินเวสท์เมนท์ กรุ๊ป” ซึ่งเป็นบริษัทจัดการเงินทุนและสินทรัพย์ของรัฐบาลจีน ในราคาหุ้นละ 5.70 หยวน

ก่อนหน้านี้ “เอเวอร์แกรนด์” ซึ่งเป็นยักษ์อสังหาริมทรัพย์อันดับ 2 ของประเทศจีน ได้เติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ก็ได้ประสบปัญหา หลังจากรัฐบาลจีนออกมาตรการใหม่เมื่อเดือนสิงหาคม 2020 เพื่อติดตามและควบคุมหนี้สินของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อย่างใกล้ชิด

โดยมาตรการที่เข้มงวดดังกล่าว จึงทำให้ “เอเวอร์แกรนด์” ซึ่งพึ่งพาเงินจากการขายล่วงหน้า แล้วนำมาหมุนธุรกิจต่าง ๆ ต้องเทขายโครงการ พร้อมส่วนลดที่สูงลิ่ว อย่างไรก็ตาม เงินก็ยังไม่พอสำหรับหนี้สินมูลค่ารวมกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากหลายปีก่อนได้กู้เงินจำนวนมหาศาล เพื่อสร้างการเติบโต

ขณะเดียวกันเอเวอร์แกรนด์ยังไม่ได้จ่ายดอกเบี้ยตราสารหนี้มูลค่า 83.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีกำหนดจ่ายเมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา รวมถึงยังไม่มีการพูดถึง การจ่ายดอกเบี้ยพันธบัตรมูลค่าอีก 47.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีกำหนดจ่ายในวันนี้ (29 ก.ย.)