พาณิชย์เผยปี 2564 ไทยยังคงเนื้อหอม ต่างชาติแห่ลงทุน กว่า 8.2 หมื่นล้านบาท ญี่ปุ่นนำโด่ง 2.3 หมื่นล้านบาท จ้างงานคนไทยรวมกว่า 5,450 คน
วันที่ 31 มกราคม 2565 นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตลอดปี 2564 คณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ได้อนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย จำนวน 570 ราย เงินลงทุนรวม 82,501 ล้านบาท เกิดการจ้างงานคนไทย 5,450 คน โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทยสูงสุด 10 อันดับแรก ประกอบด้วย
- แคดเมียมมีดีอะไร ทำไมแค่กากยังมีคนอยากได้?
- เช็กเงินอุดหนุนบุตร 600 บาท เดือนเมษายน 2567 เงินเข้าวันไหน
- ปรับเงินเพิ่มค่าครองชีพ ข้าราชการ 4 กลุ่ม เริ่ม 1 พ.ค.นี้
อันดับที่ 1 ญี่ปุ่น 163 ราย (28.6% ของนักลงทุนที่เข้ามาจำนวน 570 ราย) เงินลงทุน 23,260 ล้านบาท อันดับที่ 2 สหรัฐอเมริกา 88 ราย (15.4%) เงินลงทุน 5,948 ล้านบาท อันดับที่ 3 สิงคโปร์ 86 ราย (15.1%) เงินลงทุน 10,530 ล้านบาท อันดับที่ 4 ฮ่องกง 41 ราย (7.2%) เงินลงทุน 19,555 ล้านบาท อันดับที่ 5 จีน 29 ราย (5.1%) เงินลงทุน 3,748 ล้านบาท
อันดับที่ 6 เนเธอร์แลนด์ 18 ราย (3.2%) เงินลงทุน 3,063 ล้านบาท อันดับที่ 7 เยอรมนี 16 ราย (2.8%) เงินลงทุน 695 ล้านบาท อันดับที่ 8 ฝรั่งเศส 15 ราย (2.6%) เงินลงทุน 1,127 ล้านบาท อันดับที่ 9 เกาหลี 14 ราย (2.5%) เงินลงทุน 847 ล้านบาท อันดับที่ 10 สหราชอาณาจักร 9 ราย (1.5%) เงินลงทุน 636 ล้านบาท และประเทศอื่น 91 ราย (16.0%) เงินลงทุน 13,093 ล้านบาท
ธุรกิจที่ได้รับอนุญาตส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ และสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (New S-Curve) รวมถึงสนับสนุนการดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมอื่นที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคต เช่น บริการออกแบบ จัดซื้อ จัดหา ติดตั้ง ทดสอบระบบ รวมถึงการบริหารจัดการโครงการ การฝึกอบรม การให้คำปรึกษาแนะนำที่เกี่ยวข้องกับระบบต่าง ๆ สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
ธุรกิจบริการออกแบบทางวิศวกรรม วางระบบ และทดสอบเครื่องจักร/อุปกรณ์สำหรับโครงการศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าอัจฉริยะระหว่างประเทศ ธุรกิจบริการออกแบบและพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล บริการเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ (International Business Center : IBC) ให้แก่บริษัทในเครือในต่างประเทศ บริการควบคุมการผลิต การบรรจุภัณฑ์ การจัดเก็บ การตรวจสอบและการรับรองคุณภาพของเคมีภัณฑ์ และการบำบัดน้ำเสีย
บริการให้ใช้สิทธิและให้ใช้ช่วงสิทธิในซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชั่นเกี่ยวกับกระบวนการทางการแพทย์ บริการติดตั้ง ซ่อมแซม และบำรุงรักษาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charging Station) สำหรับรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า และบริการให้ใช้ระบบบริหารจัดการในสถานีดังกล่าว เป็นต้น
คาดว่าตลอดปี 2565 จะมีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากภาครัฐมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยผ่อนคลายให้มีการเปิดประเทศ และเพิ่มการอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุน ผนวกกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกมีทิศทางที่ผ่อนคลายขึ้น โดยเฉพาะตลาดหลักทั้งสหรัฐอเมริกา จีน และยุโรป ที่เศรษฐกิจน่าจะเริ่มฟื้นตัวหลังการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19
นอกจากนี้ การลงทุนจากต่างประเทศ น่าจะยังคงขยายตัวต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา จากการฟื้นตัวของอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเห็นสัญญาณจากการลงทุนของบริษัทไทยและต่างชาติที่เริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ปีที่ผ่านมา รวมถึงแนวโน้มการลงทุนในลักษณะที่เป็นการเข้ามาร่วมทุนกับบริษัทไทย ซึ่งได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ซึ่งจะส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้น และถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเสริมให้เศรษฐกิจของไทยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
ทั้งนี้ เฉพาะเดือนธันวาคม 2564 คณะกรรมการได้อนุญาตให้คนต่างชาติ 56 ราย ประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติจากประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และฮ่องกง มีการนำเงินเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจกว่า 1,906 ล้านบาท ส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานคนไทย 447 คน รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย
เช่น *องค์ความรู้เกี่ยวกับการออกแบบระบบไฟฟ้า/อิเล็กทรอนิกส์ และการบำรุงรักษาระบบในโครงการรถไฟฟ้า *องค์ความรู้เกี่ยวกับระบบการเชื่อมต่อ EV Low Priority System และการพัฒนาแอปพลิเคชั่นเพื่อการใช้งานร่วมกับเครื่องอัดประจุไฟฟ้า และ *องค์ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในการออกแบบกระบวนการผลิตและความรู้ด้านการควบคุมระบบการกำจัดกากมลพิษอุตสาหกรรม เป็นต้น
สำหรับธุรกิจที่คนต่างด้าวได้รับอนุญาต ได้แก่ 1.บริการออกแบบ จัดซื้อ จัดหา ติดตั้ง ทดสอบระบบ รวมถึงการบริหารจัดการโครงการ การฝึกอบรม การให้คำปรึกษาแนะนำที่เกี่ยวข้องกับระบบต่าง ๆ สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน 2.บริการให้ใช้ระบบบริหารจัดการในสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 3.บริการควบคุมการผลิต การบรรจุภัณฑ์ การจัดเก็บ การตรวจสอบและการรับรองคุณภาพของเคมีภัณฑ์ และการบำบัดน้ำเสีย เป็นต้น