บทบรรณาธิการ
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- หุ้นกู้ออกใหม่ 12 บริษัทแห่ขายเดือน เม.ย.นี้ จ่ายดอกเบี้ยสูงสุด 7.40%
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
“การทำดีนั้นทำยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ความชั่วซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ และจะเพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว แต่ละคนจึงต้องตั้งใจและเพียรพยายามให้สุดกำลัง ในการสร้างเสริมและสะสมความดี”
พระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ที่พระราชทานแก่ผู้สำเร็จการศึกษา โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ณ สวนอัมพร เมื่อ 14 ส.ค. 2525 เป็นสิ่งที่คนไทยต้องเทิดทูนไว้เหนือหัว และน้อมปฏิบัติเป็นสิริมงคลในการดำรงชีวิตโดยเฉพาะอย่างยิ่งในโอกาสมหามงคล วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 66 พรรษา วันที่ 28 ก.ค. 2561
ด้วยการสืบสานพระราชปณิธาน บำเพ็ญตนเป็นผู้ให้ ภายใต้โครงการจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” โครงการในพระราชดำริ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรและเป็นหนึ่งในหลากหลายกิจกรรม ที่หน่วยงานภาครัฐและเอกชนพร้อมใจกันจัดขึ้นทั้งในส่วนกลางและทุกภูมิภาคเพื่อเฉลิมพระเกียรติในปีนี้ นอกเหนือจากพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศล ถวายพระพรชัยมงคล การประดับพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การลงนามถวายพระพร และประดับธงชาติไทย
อย่างโครงการ “จิตอาสาเพื่อการพัฒนาลำน้ำกับชีวิตบนวิถีแห่งความพอเพียง เพื่อประโยชน์และความสุขของประชาชน” ซึ่งจัดขึ้นที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดตัวโครงการ
ขณะที่กิจกรรมจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” เฉลิมพระเกียรติและถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะจัดขึ้นทั้งในส่วนกลาง ต่างจังหวัด และต่างประเทศ โดยน้อมนำแนวทางจิตอาสาในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มาขยายผลต่อยอด สร้างจิตสำนึกสาธารณะให้กับทุกภาคส่วน
เพราะท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจ สังคม การเมืองในโลกยุคใหม่ที่ปรับเปลี่ยนรวดเร็วและรุนแรง หากคนไทยรวมพลังเป็นหนึ่งเดียวเหมือนการรวมพลังทำกิจกรรมจิตอาสา ก็น่าจะรับมือพายุดิจิทัลที่กำลังถาโถมได้ไม่ยาก
ขณะเดียวกันจะพลิกวิกฤตเป็นโอกาสให้กับประเทศ ทำให้ทุกภาคส่วนปรับตัวได้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลง โดยไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง บ้านเมืองจะพัฒนาเจริญก้าวหน้า ด้วยพลังแห่งการทำความดี และการรู้รักสามัคคีของไทยทั้งชาติ