คอลัมน์

บททดสอบแก้วิกฤตโควิด

บทบรรณาธิการ

ข่าวผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) เสียชีวิตรายแรกในประเทศไทย และเป็นคนไทยรายแรกที่เสียชีวิต เมื่อ 1 มี.ค. 2563 ทำให้ความกระทรวงสาธารณสุข ที่พยายามตรึงไวรัส COVID-19 ให้อยู่ในระยะที่ 2 ให้นานที่สุด ต้องทำงานหนักมากขึ้น และต้องอาศัยความร่วมมือในการป้องกันสกัดโรคร้ายจากทุกภาคส่วน

สำหรับประเทศไทยนั้นแม้การระบาดของไวรัส COVID-19 ยังไม่ลามสู่ระยะที่ 3 หรือมีการติดเชื้อภายในประเทศในวงกว้าง แต่แนวโน้มสถานการณ์ที่ยังน่าห่วง นอกจากท้าทายกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบดูแลด้านสุขภาพอนามัยแล้ว ยังท้าทายฝีมือความสามารถรัฐบาลในการบริหารจัดการวิกฤตด้วย

เริ่มจากบททดสอบแรก การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้ทุกฝ่ายตระหนักในการป้องกันดูแลสุขภาพ ลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อไวรัสที่สอบไม่ผ่าน เพราะข้อมูลข่าวสารที่แพร่กระจายทั้งข่าวจริง เฟกนิวส์ ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกวิตกกังวลกับประชาชนจำนวนมาก ขณะที่การรับรู้เข้าใจถึงมหันตภัยไวรัสสายพันธุ์ใหม่ยังอยู่ในวงจำกัด ชี้ให้เห็นว่าการประชาสัมพันธ์ของรัฐยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

ขณะเดียวกัน ทันทีที่ COVID-19 แพร่ระบาดเข้ามาในประเทศไทย หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ ฯลฯ ซึ่งถือเป็นสินค้าสำคัญ และจำเป็นในการป้องกันความเสี่ยงและดูแลรักษาสุขภาพอนามัย ขาดตลาด หาซื้อยาก อีกทั้งราคาปรับสูงขึ้นผิดปกติ

แม้คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการจะกำหนดให้สินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าควบคุม กระทรวงพาณิชย์คุมเข้มทั้งการผลิต การจำหน่วย แต่ในสภาพความเป็นจริงยังมีการโก่งราคา การกักตุนสินค้า

ที่สำคัญ ไม่ใช่แค่ประชาชนทั่วไปเท่านั้นที่หาซื้อหน้ากากอนามัย เจลล้างมือไม่ได้ แม้แต่โรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชนก็ประสบปัญหา จึงน่าห่วงว่าหากไวรัสโควิด-19 เข้าสู่ระยะที่ 3 การระบาดของโรครุนแรง ถ้ารัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังต่างคนต่างทำ คุมสถานการณ์ไม่ได้ จะยิ่งโกลาหล

ไม่แปลกที่การกักตุนอาหาร สินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน เป็นปรากฏการณ์ที่เริ่มมีให้เห็น แม้ส่วนหนึ่งเพื่อลดความเสี่ยงจากที่ต้องออกไปจับจ่ายตามห้าง หรือสถานที่ชุมนุมคน และเตรียมการรับมือวิกฤตที่อาจจะเกิดขึ้นล่วงหน้า แต่ชี้ให้เห็นถึงความตื่นตระหนก และไม่เชื่อมั่นอยู่ในที

ก่อน “โควิด-19” ระยะที่ 3 มาถึง รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องถอดบทเรียนที่ได้รับมาปรับแก้ เพราะถ้าตั้งการ์ดรับไม่ดีพอ นอกจากจะเสียหายหนักแล้ว การกอบกู้วิกฤตก็จะยิ่งยาก