คอลัมน์

เงินเฟ้อสูงทั่วโลก โค้งสุดท้ายปี’64 เศรษฐกิจกระเตื้อง

เศรษฐกิจไทย-ราคาน้ำมัน-สินค้า เงินเฟ้อ
คอลัมน์ ดุลยธรรม
ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ

 

ทิศทางอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นและมีความเสี่ยงที่จะมีแนวโน้มสูงเป็นเวลานาน หากเศรษฐกิจใดไม่มีสัญญาณของการกระเตื้องขึ้นของเศรษฐกิจเลยจะเผชิญสภาวะ stagflation ทันทีคือ เงินเฟ้อสูง เศรษฐกิจชะงักงัน ชะลอตัว ว่างงานสูง ภาวะ stagflation เป็นสภาพที่แก้ไขยากหากใช้นโยบายการเงินการคลังผ่อนคลายมากแก้ปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว ว่างงานสูง ก็จะสร้างแรงกดดันเงินเฟ้อได้

จากการคาดการณ์ประเทศไทยจะไม่เจอกับภาวะดังกล่าว หรือหากเจอก็เป็นปรากฏการณ์ชั่วคราว แม้ดัชนีความทุกข์ยากทางเศรษฐกิจ (misery index) จะเพิ่มขึ้นแต่ไม่สูงมาก ไทยเคยมีอัตราความทุกข์ยากทางเศรษฐกิจต่ำที่สุดในโลกหลายปีต่อเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อต่ำและอัตราว่างงานต่ำช่วงปี 2543-2562 ดัชนีทุกข์ยากคำนวณจากการนำอัตราเงินเฟ้อมาบวกกับอัตราการว่างงาน ดัชนีพัฒนาขึ้นมาโดย Dr.Art Okun นักเศรษฐศาสตร์ชาวสหรัฐอเมริกา การที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

ล่าสุดราคาน้ำมันในตลาดโลกทะลุระดับ 85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลไปแล้ว โดยกลุ่มประเทศละตินอเมริกาโดยเฉพาะประเทศเวเนซุเอลา และหลายประเทศในแอฟริกา ยุโรปตะวันออก ดัชนีความทุกข์ยากอาจเพิ่มสูงขึ้นอย่างรุนแรง โดยประเทศเวเนซุเอลานั้นดัชนีความทุกข์ยากทางเศรษฐกิจเคยสูงทะลุระดับ 490 จุดมาต่อเนื่องหลายปี และเกิดอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงรุนแรง (hyperinflation)

กรณีของไทยดีกว่าหลายประเทศ แม้ดัชนีทุกข์ยากเพิ่มขึ้นแน่ และอาจสูงกว่าระดับ 4 แต่ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับหลายประเทศ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรปล่อยให้เงินเฟ้อสูงกว่า 3% และอัตราการว่างงานสูงกว่า 2% หากปล่อยให้อัตราการว่างงานเพิ่มสูงขึ้น 1% จะทำให้การขยายตัวของจีดีพีต่ำกว่าผลผลิตระดับศักยภาพ หรือศักยภาพการผลิตสูงสุดที่ประเทศสามารถผลิตได้ โดยมีการใช้ทรัพยากรและปัจจัยการผลิตอย่างเต็มประสิทธิภาพ และไม่ก่อให้เกิดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ

การผ่อนคลายมาตรการสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ของธนาคารแห่งประเทศไทยถือเป็นเรื่องที่ดี น่าจะกระตุ้นให้เกิดธุรกรรมซื้อขาย การจ้างงาน และการลงทุนเพิ่มขึ้นในช่วง 1 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกัน การผ่อนคลาย มาตรการ LTV ชั่วคราวจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปีนี้ต่อเนื่องถึงปีหน้า ส่งผลดีต่อธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ภาคการก่อสร้าง ธุรกิจอุตสาหกรรมก่อสร้าง รวมทั้งโรงแรมและรีสอร์ตที่มีปัญหาสภาพคล่อง และเจ้าของเดิมไม่สามารถดำเนินการทางธุรกิจต่อได้ จะถูกเปลี่ยนมือเป็นผู้ลงทุนรายใหม่ได้ง่ายขึ้น

พิจารณารายละเอียดมาตรการแบงก์ชาติ พบว่าการกำหนดให้เพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV ratio) เป็นร้อยละ 100 สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย จะกระตุ้นให้เกิดธุรกรรมซื้อขายเพิ่มขึ้น เป็นประโยชน์ทั้งประชาชนผู้ซื้ออสังหาฯธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจสินเชื่ออสังหาฯ นอกจากนี้ ธุรกิจตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์จะได้รับผลบวกอีกด้วย

จะทำให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบร้อยละ 9.8 ของจีดีพี ทำให้เกิดการจ้างงาน 2.8 ล้านตำแหน่ง หากตัวทวีคูณทางเศรษฐกิจทำงานได้ดีจากความเชื่อมั่นการเปิดประเทศ เปิดให้ต่างชาติลงทุนในอสังหารฯ ได้มากขึ้นผลบวกอาจดีกว่าที่แบงก์ชาติคาดการณ์ไว้

แต่การผ่อนคลายชั่วคราว 1 ปีนั้น อาจสั้นเกินไปควรผ่อนคลายอย่างน้อย 2-3 ปี เพราะไม่เชื่อว่าจะมีสัญญาณฟองสบู่ในธุรกิจอสังหาฯ 2-3 ปีข้างหน้า และไม่มีสัญญาณหนี้เสียเพิ่มขึ้นรุนแรง เนื่องจากสถาบันการเงินส่วนใหญ่มีมาตรการปล่อยสินเชื่อค่อนข้างรัดกุม

เศรษฐกิจในภาพรวมช่วง 2 เดือนสุดท้ายปีนี้จะกระเตื้องขึ้นชัดเจนจากการเปิดประเทศ เงินจะสะพัดมากขึ้น จึงไม่มีความจำเป็นในการชดเชยเกินพอดีจากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมัน ไม่ว่าจะกู้เงินก่อหนี้สาธารณะ หรือลดภาษีสรรพสามิตเพราะจะก่อให้เกิดปัญหาฐานะทางการคลังในระยะปานกลางและระยะยาว รวมทั้งไม่ส่งเสริมให้เกิดการปรับตัวลดใช้พลังงาน ลดการปล่อยมลพิษ ลดภาวะโลกร้อน

ขณะเดียวกัน คาดเงินทุนต่างชาติจะไหลเข้าตลาดการเงินไทยจากเงินบาทที่อ่อนค่า การเปิดประเทศ ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนกระเตื้องขึ้น การคาดการณ์ต่ออนาคตทางเศรษฐกิจจะดีขึ้น

ส่วนภาวะตลาดหุ้นการปรับลดมาตรการ QE ไม่มีผลต่อตลาดหุ้นในอาเซียนมากนัก คาดการณ์ว่าดัชนีตลาดหุ้นมีโอกาสทดสอบระดับ 1,680 จุดในช่วงปลายปีนี้ได้ โดยกลุ่มธุรกิจพลังงาน กลุ่มธุรกิจสถาบันการเงินขนาดใหญ่ กลุ่มธุรกิจโรงพยาบาล กลุ่มอสังหาฯ และท่องเที่ยว จะเป็นตัวนำตลาดและมีการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจโรงแรม กลุ่มโลจิสติกส์ การเดินทาง กิจการสายการบิน เป็นต้น

การเปิดประเทศแม้เป็นผลบวกอย่างมากต่อเศรษฐกิจ การสร้างรายได้และการจ้างงาน แต่ทุกคนต้องร่วมมือกันและตระหนักว่าต้องดำเนินชีวิตตามหลักการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ระวังการติดเชื้อพุ่งขึ้นจากบางกิจกรรมโดยเฉพาะที่ผิดกฎหมาย

หากมีการแพร่ระบาดอีกในบ่อนการพนัน หรือสถานบันเทิง หรือแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองผิดฎหมาย จะต้องกลับมาล็อกดาวน์และปิดประเทศอีกระลอก 4 จะเกิดวิกฤตซ้ำซ้อน ประชาชนฐานราก กิจการขนาดย่อมและขนาดเล็กจะไม่สามารถรองรับการล็อกดาวน์และปิดประเทศได้