ทานตะวันอุตสาหกรรม (THIP) รับกรีนโปรดักต์มาแรง เดินหน้าเพิ่มสัดส่วนสินค้ารักษ์โลกออกสู่ตลาด หนุนสัดส่วนรายได้ที่มาจากผลิตภัณฑ์สีเขียว พร้อมปรับกลยุทธ์เน้นหาลูกค้าใหม่ในตลาดยุโรป อเมริกา และภูมิภาคอื่นเพิ่มมากขึ้น มุ่งสู่การเป็นองค์กรรักษ์โลกและเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ
วันที่ 10 มิถุนายน 2566 นายเอกพล พงศ์สถาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทานตะวันอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทให้ความสำคัญกับเทรนด์การสร้างความยั่งยืนมาโดยตลอด และพยายามลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของการดำเนินธุรกิจ โดยนำเอานวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต รวมไปถึงการมองหาวัตถุดิบทางเลือกใหม่ ควบคู่ไปกับการดำเนินโครงการหลายรูปแบบ ให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์รักษ์โลกของผู้บริโภคที่เห็นชัดเจนขึ้น
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
“นอกจากนี้ในปัจจุบันการลงทุนอย่างยั่งยืน มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในฝั่งของผลิตภัณฑ์ และความต้องการลงทุน แม้จะมีโจทย์ท้าทายว่าจะทำอย่างไรให้สินค้ารักษ์โลกที่มีต้นทุนสูง สามารถจำหน่ายในราคาใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์ทั่วไปและสามารถแข่งขันในด้านราคาได้ เพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
ทานตะวันอุตสาหกรรม พร้อมผลักดันสินค้ารักษ์โลกให้สามารถเข้าถึงทุก ๆ คนอย่างเท่าเทียม ควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้ผู้บริโภคใช้พลาสติกให้ถูกวิธี ใช้ซ้ำให้บ่อย และจัดการหลังการใช้ให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้พลาสติกถูกทิ้งอยู่ในสิ่งแวดล้อม”
นายเอกพลกล่าวต่อว่า บริษัทเดินหน้าตอกย้ำการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเทรนด์รักษ์โลกเปลี่ยนวิถีผู้บริโภคในอนาคต ปรับเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมออกสู่ตลาด โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม อาทิ SUNBIN ถุงขยะจากเม็ดพลาสติกรีไซเคิล 100% ที่เริ่มผลิตและจำหน่ายตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2564 ได้กระแสตอบรับเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ยังมีหลอดดูดน้ำพกพา SUNECO Straw สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ และ SUNBIO ผลิตภัณฑ์สลายตัวได้โดยธรรมชาติ 100% เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
ล่าสุดส่งผลิตภัณฑ์ SUNSTRAW Green PE หลอดลดโลกร้อนรายแรกและรายเดียวที่ได้รับรองฉลากเขียว จากสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย มีส่วนช่วยลดการเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ หนุนแก้ปัญหาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากก๊าซเรือนกระจก
“ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนยอดขายต่างประเทศราว 80-85% ขณะที่ในประเทศมีสัดส่วนรายได้ 15-20% ซึ่งเติบโตขึ้นเป็นลำดับ โดยบริษัทมีการปรับกลยุทธ์เน้นหาลูกค้าใหม่ในตลาดยุโรป อเมริกา และภูมิภาคอื่นเพิ่มมากขึ้น
ด้านตลาดในประเทศฟื้นตัวและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปีก่อน โดยบริษัทเน้นสร้างการรับรู้ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของบริษัทในกลุ่มเป้าหมายเพิ่มมากขึ้น และขยายช่องทางการจำหน่ายให้หลากหลาย ทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ และช่องทางออนไลน์ในมาร์เก็ตเพลซ รองรับพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคในทุก ๆ กลุ่ม”
ทั้งนี้ บริษัทยังคงสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ผ่านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง ภายใต้แนวคิดการรักษ์โลกและประหยัดพลังงาน เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดและมอบทางเลือกให้ลูกค้ามากขึ้น พร้อมเดินหน้าหาตลาดใหม่ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเอื้อธุรกิจเติบโตในระยะยาว และเสริมความแข็งแกร่งของแบรนด์ SUN ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
