กรมแพทย์ แนะวิธีดูแลผู้สูงอายุ จากผลกระทบโควิด ทางกาย-จิตใจ

นพ.สกานต์ บุนนาค ผอ.สถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร เพื่อผู้สูงอายุ กรมการแพทย์

กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เผยแนวทางการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ จากสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ทั้งทางร่างทางกายและจิตใจ พร้อมพัฒนาแอป ‘สูงอายุ 5G’ ช่วยประเมินความเสี่ยง

สภาพสังคมและเศรษฐกิจจากมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง การไปมาหาสู่ในหมู่ญาติมิตรเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะการเว้นระยะห่างทางสังคม รวมถึงการเผชิญปัญหาทางเศรษฐกิจของลูกหลานที่กระทบถึงความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุ เหล่านี้ล้วนมีผลต่อสภาพจิตใจของผู้สูงอายุได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นความเหงา ความเครียด ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า

“นพ.สกานต์ บุนนาค” ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร เพื่อผู้สูงอายุ กรมการแพทย์ เปิดเผยแนวทางการดูแลผู้สูงอายุภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ว่า สิ่งที่ส่งผลกระทบกับผู้สูงอายุนอกจากทางร่างกาย ที่มีโอกาสติดเชื้อแล้วมีอาการรุนแรงหรือเสียชีวิตมากกว่ากลุ่มวัยอื่นแล้ว ยังกระทบกับสุขภาพสมองและสุขภาพจิตด้วย

ทั้งนี้ ลักษณะของผู้สูงอายุที่พบได้ทั่วไปมักแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มผู้สูงอายุที่มีสุขภาพแข็งแรง มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตตามปกติ 2.กลุ่มผู้สูงอายุที่มีสุขภาพทั้งแข็งแรงและไม่แข็งแรง แต่ยังสามารถช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง และมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตค่อนข้างติดบ้าน 3.กลุ่มผู้สูงอายุที่มีสุขภาพไม่แข็งแรง และมีภาวะติดเตียง และแต่ละกลุ่มต่างมีความต้องการด้านวิธีปฏิบัติเพื่อดูแลสุขภาพกาย สมอง และสุขภาพจิตแตกต่างกันออกไป

กลุ่มผู้สูงอายุที่มีสุขภาพแข็งแรง มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตตามปกติ เป็นกลุ่มที่ต้องการกิจกรรมที่ค่อนข้างสร้างความตื่นตัว สอดคล้องกับสุขภาพกายที่ยังแข็งแรง อยู่ในภาวะ active aging จึงเหมาะกับกิจกรรม เช่น การเดินเร็วออกกำลังกายทั้งในและนอกบ้าน การปลูกต้นไม้ ซึ่งอาจเลือกทำกิจกรรมในช่วงเวลาที่เหมาะสม เช่น ช่วงเช้าตรู่ที่ไม่มีผู้คนพลุกพล่าน เพื่อลดการพบปะและการสัมผัสกับผู้อื่น

กลุ่มผู้สูงอายุที่มีสุขภาพทั้งแข็งแรงและไม่แข็งแรง แต่ยังสามารถช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง และมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตค่อนข้างติดบ้าน กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีความต้องการกิจกรรมที่ไม่จำเป็นต้องออกแรงมาก แต่เน้นไปที่การดูแลสุขภาพจิตใจ กล่าวคือ การมีงานอดิเรกที่สามารถทำได้เองที่บ้าน เช่น ร้องเพลง ทำงานศิลปะที่แปลกใหม่เพื่อฝึกสมอง หรือหากออกกำลังกาย ควรเป็นไปในลักษณะไม่หักโหม และมีผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด

และกลุ่มผู้สูงอายุที่มีสุขภาพไม่แข็งแรง และมีภาวะติดเตียง กลุ่มนี้จะไม่สามารถทำกิจกรรมใด ๆ ที่ออกแรงได้มากอยู่แล้ว หัวใจสำคัญของการดูแลผู้สูงอายุกลุ่มนี้จะเน้นที่ผู้ดูแลเป็นสำคัญ การรักษาความสะอาด การกายภาพบำบัด เพื่อลดความเสี่ยงต่อภาวะข้อติดและการพลิกตัวเพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับ คือภารกิจสำคัญของผู้ดูแล

“อย่างไรก็ดี ในช่วงเวลาที่จำเป็นต้องเว้นระยะห่างทางสังคม บุตรหลานยังควรให้ความใส่ใจในเรื่องการติดต่อสื่อสารอย่างสม่ำเสมอแม้ไม่ได้พบปะ ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุกลุ่มใด ควรโทรศัพท์ หรือสื่อสารทาง VDO Call เมื่อสะดวกเพื่อประคับประคองสุขภาพจิตของผู้สูงอายุ”

“นพ.สกานต์” กล่าวด้วยว่า กลุ่มผู้สูงอายุที่ไม่สะดวกทำกิจกรรมนอกบ้าน สถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร เพื่อผู้สูงอายุ กรมการแพทย์ ได้จัดทำแอปพลิเคชั่น “สูงอายุ 5G” สำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นใช้สำหรับประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดกลุ่มอาการสูงอายุและแนวทางการจัดการ

“เราพัฒนาแอปพลิเคชั่นร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นอกเหนือจากจะเป็นเครื่องมือประเมินความเสี่ยงอาการสูงอายุแล้ว ยังมีเกมฝึกสมอง รวมทั้งเกมที่ช่วยให้ผู้สูงอายุออกกำลังกายได้เองที่บ้าน ซึ่งสามารถดูแลสุขภาพกาย-ใจ ของผู้สูงอายุได้พร้อม ๆ กัน โดยขณะนี้สามารถดาวน์โหลดได้ในระบบ Android และในอนาคตอันใกล้จะสามารถดาวน์โหลดในระบบ IOS”

ส่วนประเด็นเรื่องการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับกลุ่มผู้สูงอายุนั้นสามารถช่วยลดอัตราการติดเชื้อ และเสียชีวิตจากโควิดได้ค่อนข้างมาก แต่ขึ้นอยู่กับโรคประจำตัวของแต่ละบุคคล ซึ่งบางโรคอาจมีผลทำให้วัคซีนตอบสนองต่อภูมิคุ้มกันได้น้อย

อย่างไรก็ตาม แม้วัคซีนไม่สามารถป้องกันโรคได้ 100% แต่ก็ช่วยลดความรุนแรงในการต้องนอนโรงพยาบาลหรือห้องไอซียูได้ถึง 80-90% แต่สิ่งที่สำคัญคือผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยติดเตียงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษคือป้องกันตนเองไม่ให้ติดเชื้อและนำเชื้อมาแพร่สู่ผู้สูงอายุ แม้ว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้ว เพื่อลดการสูญเสียที่จะเกิดขึ้น นพ.สกานต์กล่าวทิ้งท้าย