AP Academy Lab ศูนย์เรียนรู้ครบวงจรด้านอสังหาฯ

ต้องยอมรับว่า บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ยอมทุ่มงบประมาณกว่า 70 ล้านบาท เพื่อยกระดับความเข้มข้นของสถาบัน AP Academy เพื่อสร้าง AP Academy Lab ซึ่งเป็นแล็บเพื่อการเรียนรู้อย่างครบวงจรทางด้านอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกของประเทศไทยด้วยการชู 3 คอนเซ็ปต์หลักในการสร้างคนคุณภาพให้เกิดขึ้นในวงการเรียลเอสเตต ประกอบด้วย

หนึ่ง Experential Learning

สอง Digital Education

สาม Knowledge Transrormation

“ภูมิพัฒน์ สินาเจริญ” รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานทรัพยากรบุคคล และผู้อำนวยการสถาบัน AP Academy บอกว่า ปีนี้เรายกระดับความเข้มข้นของสถาบัน AP Academy ขึ้นอีกระดับหนึ่งเพื่อให้ทันกับยุคสมัย

“เพราะตลอดเวลาผ่านมา เราให้ความสำคัญกับคนเป็นอย่างมาก ตอนแรกเราอาจมองเรื่องการพัฒนาคนของเราก่อน แต่ระยะหลังเราเห็นว่าการจะยกระดับการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้ทัดเทียมกับนานาประเทศ เราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้ความรู้แก่บุคคลภายนอก โดยเฉพาะกับนิสิต นักศึกษาที่เรียนทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งผ่านมาช่วงแรก ๆ เราให้ความสำคัญกับคณะวิศวกรรมโยธา แต่ปีนี้เราให้ความสำคัญกับสาขาการขาย และการตลาดมากขึ้น เพราะการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะต้องมีหลายส่วนประกอบกัน”

ถึงตรงนี้ “ภูมิพัฒน์” ขยายเพิ่มเติมให้ฟังถึง 3 คอนเซ็ปต์ต่อการสร้างคนคุณภาพในวงการอสังหาฯให้ฟังว่า อย่าง Experential Learning-การเรียนรู้มุ่งสู่การลงมือทำจริง ซึ่งเป็นการเรียนรู้ผ่าน AP Academy Lab แล็บเพื่อการเรียนรู้ครบวงจรทางด้านอสังหาฯแห่งแรกในประเทศไทย

“AP Academy Lab ตั้งอยู่บนพื้นที่ 800 ตารางเมตร บนชั้น 31 ของอาคารเลค รัชดา ถนนรัชดาภิเษก โดยมี แจ๊ค-ปิตุพงษ์ เชาวกุล สถาปนิกชื่อดังจากซุปเปอร์แมชชิน สตูดิโอ เป็นผู้ออกแบบร่วมกับทีม AP Design Lab จนทำให้การออกแบบตกแต่งภายในเกิดความรู้สึกอบอุ่น สบาย แต่แฝงไปด้วยความทันสมัย จนทำให้เกิดการผสมผสานอย่างลงตัว”

ฉะนั้น ในส่วนของ AP Academy Lab จึงประกอบด้วย 4 โซนสำคัญ คือ AP Home Lab, Collaboration Space, Play Space และ AP Auditorium

AP Home Lab แบ่งย่อยออกเป็น 6 โซน ได้แก่ โซนโครงสร้างพื้น และผนัง, โซนระบบไฟ และระบบสัญญาณต่าง ๆ, โซนโครงสร้างฝา หลังคา และบันได, โซนเคาน์เตอร์ในห้องครัว, โซนระบบประปา และระบบสุขาภิบาล และโซนภายนอกบ้าน

Collaboration Space-พื้นที่ส่วนนี้ถูกออกแบบมาให้โต๊ะ เก้าอี้ และโซฟา สามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลายฟังก์ชั่นตามพฤติกรรม และจำนวนของผู้ใช้งาน โดยไม่จำกัดกรอบความคิด ทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ ซึ่งมีกระดานกระจกติดอยู่ที่ผนัง เพื่อรองรับความคิด และไอเดียใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น

Play Space โซนพักผ่อนหลังจากประชุม และสัมมนา โดยส่วนนี้สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดให้ไว้ เช่น โต๊ะปิงปอง ฟุตบอลโต๊ะ และอื่น ๆ

AP Auditorium-ห้องประชุมที่มีการออกแบบให้เป็นห้องขนาดใหญ่ ที่บรรจุคนได้มากกว่า 250 คน ทั้งยังสามารถแบ่งพื้นที่ออกเป็นห้องขนาดเล็กถึง 3 ห้อง โดยมีการวางระบบอินฟราสตรักเจอร์ สำหรับห้องประชุมที่รองรับระบบต่าง ๆ ที่สามารถเก็บเสียงระหว่างห้องได้เป็นอย่างดี

เพราะคอนเซ็ปต์ถูกออกแบบให้เหมือนห้องเรียนวิทยาศาสตร์ที่แฝงไปด้วยความเรียบง่าย เพื่อให้ดูสบายตา

ขณะที่ Digital Education จะเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแพลตฟอร์มการเรียนรู้ให้ก้าวทันโลกดิจิทัล และเด็ก ๆ เจน C โดยผ่านการเรียนการสอนที่เข้าถึงตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับปีนี้มีการลงทุนพัฒนาเครื่องมือใหม่ ๆ ที่เชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ เช่น Workplace by Facebook หรือการสร้างสังคม

เอพีผ่านโซเชียลมีเดีย รวมถึงการนำ AP Learning Application มาช่วยเปลี่ยนการอบรม และการทดสอบไปอยู่ในรูปแบบออนไลน์ และการนำเทคโนโลยี VR เข้ามาผสมผสานกับกระบวนการเรียนการสอนด้วย

สำหรับ Knowledge Transrormation เกี่ยวข้องกับการมุ่งส่งต่อองค์ความรู้ จนนำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรม หรือไอเดียใหม่ ๆ โดยปีนี้ยังคงได้รับความร่วมมือจากมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป ที่พร้อมสนับสนุนโปรแกรม AP Open House ปี 2 ด้วยการพาตัวแทนนิสิต นักศึกษาไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น 4 คน เพราะธีมของปีนี้ คือ Digital for Future Living ซึ่งพวกเขาจะได้เรียนรู้การผสมผสานเทคโนโลยีกับการอยู่อาศัยในโลกอนาคต

“ภูมิพัฒน์” บอกว่า AP Open House ปี 2 เราเปิดกว้างมากขึ้นในการรับนิสิต นักศึกษาปีที่ 3-4 จำนวน 50 คน จากหลากหลายสาขาของสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศเพื่อเข้ามาฝึกงานในหลักสูตรที่เข้มข้น และตอนนี้พวกเขาเข้าทำการอบรม และเรียนรู้ที่ AP Academy Lab ผ่านไปแล้ว 1 เดือน ส่วนอีก 1 เดือนที่เหลือ คาดว่าเราจะได้ตัวแทนนิสิต นักศึกษาไปดูงานที่ญี่ปุ่นทั้งหมด 4 คน

“เพราะเป้าหมายของเราต้องการยกระดับคนในอุตสาหกรรมอสังหาฯ และคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้อยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาเราทำอย่างต่อเนื่อง แต่คนที่เราจะต่อยอดไปในอนาคตเพื่อประเทศไทย คือ นิสิต นักศึกษา ปัจจุบันที่กำลังเรียนอยู่ เพื่อที่เขาจะได้ออกไปดูโลกภายนอก ไปเห็นประสบการณ์จริงที่มากกว่าเดิม เพราะเราต้องการให้พวกเขามีแรงบันดาลใจที่จะไปเรียนรู้ในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับวงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งระบบ”

“ส่วนสาเหตุที่ต้องไปญี่ปุ่น เนื่องจากบริษัทของเราจอยต์เวนเจอร์กับมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป ซึ่งถือเป็นดีเวลอปเปอร์รายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เราจึงอยากให้พวกเขาไปเห็นนวัตกรรมการก่อสร้าง เพราะที่นี่เขาก่อสร้างค่อนข้างรวดเร็ว ใช้คนน้อย เราอยากส่งต่อแรงบันดาลใจตรงนี้กลับไปสู่พวกเขา เพื่อจะได้เรียนรู้ต่อยอดต่อไป และถ้าวันหนึ่งเขากลับไปพัฒนาอุตสาหกรรมก่อสร้างในเมืองไทย ผมคิดว่าอีกสัก 5 ปี เราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เขามีโอกาสไปเรียนรู้มา”

เพราะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จำเป็นต้องพัฒนาอยู่เสมอ หยุดนิ่งไม่ได้ ซึ่งเหมือนกับบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ที่พร้อมจะพัฒนาตัวเอง เพื่อให้ก้าวไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต