ผู้ที่ชำระเงินสมทบเต็มจำนวนไปแล้วในเดือนกุมภาพันธ์ และเดือนมีนาคม 2565 สามารถยื่นขอรับเงินสมทบส่วนเกินคืนได้แล้ว
วันที่ 10 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า จากกรณีที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบขยายระยะเวลาการลดอัตราเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่ต้องจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคม เป็นระยะเวลา 6 เดือน เริ่มตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 – 31 กรกฎาคม 2565 สำหรับผู้ที่ชำระเงินสมทบเต็มจำนวนไปแล้วในเดือนกุมภาพันธ์ และเดือนมีนาคม 2565 สามารถยื่นขอรับเงินสมทบส่วนเกินคืนได้แล้ว
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
อัตราส่งเงินสมทบหลังปรับลดทั้ง 3 ทางเลือก มีดังนี้
- ทางเลือกที่ 1 ลดเงินสมทบเหลือ 42 บาท จากเดิม 70 บาท โดยได้ประโยชน์ทดแทนใน 3 กรณี คือ ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ และเสียชีวิต
- ทางเลือกที่ 2 ลดเงินสมทบเหลือ 60 บาท จากเดิม 100 บาท โดยได้ประโยชน์ทดแทนใน 4 กรณี คือ ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต และชราภาพ
- ทางเลือกที่ 3 ลดเงินสมทบเหลือ 180 บาท จากเดิม 300 บาท โดยได้ประโยชน์ทดแทนใน 5 กรณี คือ ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต ชราภาพ และสงเคราะห์บุตร
ขั้นตอนขอคืนเงินสมทบ มีดังนี้
1. กรอกแบบฟอร์ม สปส. 1-23/3 แบบคำขอรับเงินคืน สำหรับผู้ประกันตนโดยสมัครใจ โหลดฟอร์มคลิกที่นี่
2. แนบสำเนาบัญชี 1 ธนาคาร มีให้เลือกดังนี้
-ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.)
-ธนาคารกรุงไทย
-ธนาคารออมสิน
-ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
3. ส่งเอกสารกลับมายังสำนักงานประกันสังคมที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนประกันสังคม1506 ให้บริการไม่เว้นวันหยุดราชการตลอด 24 ชั่วโมง