สิงคโปร์ครองแชมป์เมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก โดยมี 5 เมืองจากเอเชียติด 10 อันดับแรก
Julius Baer Group (จูเลียส แบร์) บริษัทบริหารจัดการความมั่งคั่งและการลงทุนชั้นนำระดับพรีเมี่ยมจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เผยแพร่รายงานความมั่งคั่งและไลฟ์สไตล์ทั่วโลกประจำปี 2023 พบว่า สิงคโปร์เป็นเมืองที่ค่าครองชีพสูงที่สุด และมี 5 เมืองจากเอเชียติด 10 อันดับแรก
- ด่วน! โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม.เศรษฐา 1/1 รัฐมนตรีใหม่ 13 ตำแหน่ง
- ทูลเกล้า 11 รายชื่อคณะรัฐมนตรี เศรษฐา 1/1 ออก 4 เข้าใหม่ 6 ตำแหน่ง
- ล้งกระหน่ำทุบราคามังคุด จากโลละ 200 เหลือ 60 บาท
นับเป็นครั้งแรกที่สิงคโปร์ขึ้นมาครองอันดับ 1 หลังจากอยู่ในอันดับ 9 ในปี 2021 และอันดับ 5 ในปี 2022 ก่อนจะสามารถเบียดแซงเซี่ยงไฮ้ให้ตกไปอยู่ที่อันดับ 2 ได้ในปีนี้
นักวิเคราะห์ของ Julius Baer ระบุว่า รัฐบาลสิงคโปร์ประสบความสำเร็จในการพยายามทำให้สิงคโปร์เป็นสถานที่ที่น่าดึงดูดใจบุคคลที่มีรายได้สูงในการใช้ชีวิตและทำงาน ในขณะเดียวกันก็เป็นการดันให้ค่าครองชีพสูงขึ้นเช่นกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในนครรัฐสิงคโปร์ที่มีประชากรราว 5.5 ล้านคน แต่มีค่าเช่าบ้าน ราคาบ้าน ค่าเล่าเรียน ภาษีรถยนต์ และค่าครองชีพทั่วไปสูง รวมถึงค่าประกันสุขภาพที่จำเป็นสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกมากกว่าสองเท่า
บนเว็บไซต์ของรัฐบาลสิงคโปร์ ระบุข้อมูลราคาห้องพักในคอนโดมิเนียมนอกเขตศูนย์กลางของนครรัฐซึ่งส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 1,300-2,350 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อเดือน (ประมาณ 33,815-61,127 บาท) ขณะที่ค่าเช่าคอนโดมิเนียมเฉลี่ยอยู่ที่ 3,800-5,750 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อเดือนโดยเฉลี่ย (ประมาณ 98,840-149,561 บาท)
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ของ Julius Baer ยังกล่าวอีกด้วยว่า สิงคโปร์เป็นเมืองที่น่าอยู่ มั่นคง และเป็นสากลมานานแล้ว
โดยปัจจุบันสิงคโปร์กำลังแข่งขันกันเพื่อเป็นศูนย์กลางชั้นนำของโลกสำหรับการอยู่อาศัยของผู้มั่งคั่ง อีกทั้งสิงคโปร์มีสนามบินที่มีความพลุกพล่าน และเป็นหนึ่งในเมืองที่มีรายได้เฉลี่ยต่อหัว (GDP per capita) สูงที่สุดในโลก
10 เมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก
สำหรับ 10 เมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก ประกอบด้วย
1.สิงคโปร์
2.เซี่ยงไฮ้
3.ฮ่องกง
4.ลอนดอน
5.นิวยอร์ก
6.โมนาโก
7.ดูไบ
8.ไทเป
9.เซาเปาลู
10.ไมอามี
