3 นิคมอุตสาหกรรม โซนอยุธยา ยกระดับเฝ้าระวัง รับมือน้ำเหนือ

นิคมอุตสาหกรรม
แฟ้มภาพนิคมอุตสาหกรรม

“สุริยะ” กำชับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เฝ้าระวังพื้นที่ 3 โซนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เตรียมรับมือน้ำเหนือ หลังเขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนพระราม 6 ปล่อยน้ำเพิ่มจาก 600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ด้านผู้ว่าการ กนอ. สั่งยกระดับการเฝ้าระวังเพิ่ม พร้อมตรวจสอบความแข็งแรงคันป้องกันน้ำท่วม ติดตามสภาพอากาศและระดับน้ำ

วันที่ 5 ตุลาคม 2565 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตามที่กรมชลประทานได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำเพื่อควบคุมปริมาณน้ำในเขื่อนเจ้าพระยา และเขื่อนพระราม 6 โดยทยอยปรับเพิ่มจาก 600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ทำให้พื้นที่ริมแม่น้ำ ถึงเขื่อนพระราม 6 พื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น 0.40-1.00 เมตร และมีปริมาณน้ำไหลผ่านอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยู่ในเกณฑ์ 3,300-3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

จึงสั่งการให้ กนอ.เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำโดยรอบนิคมอุตสาหกรรมโซนจังหวัดพระนครศรีอยุธยาทั้ง 3 แห่ง ประกอบด้วย นิคมอุตสาหกรรมนครหลวง นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน และนิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้าอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเตรียมมาตรการรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม ได้รับรายงานจาก กนอ.ว่ามีการยกระดับการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำโดยรอบนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 3 แห่งเพิ่มขึ้นแล้ว

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า กนอ.ยกระดับการเตือนภัยเป็นระดับ 2 (เฝ้าระวัง) หลังมีการเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนพระราม 6 รวมถึงมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำทั้งภายในและภายนอกนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 3 แห่งเพิ่มขึ้น

โดยที่นิคมอุตสาหกรรมนครหลวง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ร่วมด้วย มีระดับน้ำห่างจากหลังคันป้องกันน้ำท่วมนิคม ประมาณ 2.86 เมตร

ส่วนที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำภายนอกแนวป้องกัน (แม่น้ำเจ้าพระยา) เมื่อเทียบกับความสูงของเขื่อนป้องกันน้ำท่วมแล้ว ยังคงเหลือระยะห่างจากสันเขื่อนอยู่ 2.16 เมตร โดยระดับน้ำที่ไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่อำเภอบางปะอิน อยู่ที่ 3,587 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่ระดับน้ำภายในแนวป้องกัน (ประตูคลองจิก) เมื่อเทียบกับระดับถนนอุดมสรยุทธ์ภายในนิคม ยังมีระยะห่างอยู่ที่ประมาณ 1.66 เมตร

ขณะที่นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำภายนอกแนวป้องกัน (แม่น้ำเจ้าพระยา) ระดับน้ำห่างจากหลังคันป้องกันน้ำท่วมนิคมประมาณ 1.70 เมตร โดยมีปริมาณอัตราการระบายน้ำอยู่ที่ 3,218 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

“ทั้ง 3 นิคม ยังมีศักยภาพในการรับมือและป้องกันสถานการณ์น้ำท่วมได้เป็นอย่างดี แต่การยกระดับการเตือนภัยนั้น เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง เตรียมความพร้อม และเป็นการไม่ประมาท เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยทั้ง 3 นิคม มีการตรวจวัดระดับน้ำอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการตรวจสอบอุปกรณ์เครื่องสูบระบายน้ำให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา

นอกจากนี้ยังมีการพร่องน้ำรักษาระดับไว้ที่ประมาณ 50% ตามสถานการณ์ปัจจุบัน ขณะเดียวกันได้ให้ทั้ง 3 นิคม ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของคันป้องกันน้ำท่วมรอบนิคมเป็นประจำด้วย รวมทั้งติดตามการพยากรณ์อากาศ ระดับน้ำ การระบายน้ำจากเขื่อนต่าง ๆ จากกรมชลประทานอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ มั่นใจว่ามาตรการที่ดำเนินการทั้งหมดจะสามารถรับมือกับสถานการณ์อุทกภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งผลกระทบต่อชุมชนรอบนิคมและผู้ประกอบการให้น้อยที่สุด โดย กนอ.พร้อมดูแลชุมชนที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างดี”