จุดความร้อนไทยมาแรงขึ้นนำอาเซียนกว่า 2,600 จุดอีกครั้ง

จุดความร้อนไทย
ภาพจาก PIXABAY

จุดความร้อนวานนี้ ไทยมาแรงขึ้นนำอาเซียนกว่า 2,600 จุดอีกครั้ง ลำปาง นำลิ่ว 338 จุด ด้านเมียนมาตามติด 2,300 จุด

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของระบบเวียร์ (VIIRS) ไทยพบจุดความร้อนวานนี้ (13 ก.พ. 66) จำนวน 2,656 จุด

ในขณะที่จุดความร้อนของประเทศเพื่อนบ้านอย่างสาธารณรัฐสหภาพเมียนมาตามมาติด ๆ จำนวน 2,321 จุด, สปป.ลาว จำนวน 1,422 จุด, ราชอาณาจักรกัมพูชา 664 จุด, เวียดนาม 542 จุด และมาเลเซีย 1 จุด

จุดความร้อนในประเทศไทยส่วนใหญ่สูงสุดพบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 1,196 จุด, ป่าสงวนแห่งชาติ 1,071 จุด, พื้นที่เกษตร 159 จุด, พื้นที่เขต ส.ป.ก. 127 จุด, ชุมชนและอื่น ๆ 100 จุด และริมทางหลวง 3 จุด โดยจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุดวานนี้คือ #ลำปาง 338 จุด #ตาก 321 จุด #น่าน 318 จุด และ #เชียงใหม่ 249 จุด ตามลำดับ จากภาพแสดงให้เห็นว่าภาคเหนือมีปริมาณจุดความร้อนมากกว่าภาคอื่น ๆ

ทั้งนี้ สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่มักจะมากับเหตุการณ์ไฟป่าและจุดความร้อนคือ PM 2.5 สถานการณ์การจุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดนเนื่องจากได้รับอิทธิพจากกระแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบให้กับระบบต่าง ๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม

ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำ เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ท่านสามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรงได้ GISTDA ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่ ท่านสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://fire.gistda.or.th

จุดความร้อนไทย