
จุดความร้อนไทยขยับสูงขึ้น วานนี้พบ 777 จุด พื้นที่เกษตรยังคงสูงสุดต่อเนื่อง ส่วน PM 2.5 ยังเกินมาตรฐาน นครพนม-อำนาจเจริญ-บึงกาฬ นำลิ่ว
วันที่ 16 มีนาคม 2566 สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของวันที่ 15 มีนาคม 2566 ไทยพบจุดความร้อน จำนวน 777 จุด ในขณะที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมายังนำโด่ง 3,231 จุด สปป.ลาว 2,961 กัมพูชา 1,238 จุด จุด เวียดนาม 596 จุด และมาเลเซีย 41 จุด
- ในหลวง พระราชินี เสด็จฯส่วนพระองค์ ทรงร่วมแข่งเรือใบ จ.ภูเก็ต
- เช็กที่นี่ เงินอุดหนุนบุตร 600 บาท เดือนธันวาคม 2566 เงินเข้าวันไหน
- เปิดค่าตอบแทน “ผู้บริหาร” ยักษ์ บจ. BBL จ่ายพันล้านต่อปี ทิ้งห่างคู่แข่ง
สำหรับจุดความร้อนในประเทศไทย ส่วนใหญ่พบในพื้นที่เกษตร 230 จุด, ป่าอนุรักษ์ 195, ป่าสงวนแห่งชาติ 147 จุด, พื้นที่เขต ส.ป.ก. 104 จุด, พื้นที่ชุมชนและอื่น ๆ 89 จุด และริมทางหลวง 12 จุด ในส่วนของจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุดคือ #เลย 63 จุด
ส่วนค่าฝุ่น PM 2.5 เมื่อตรวจสอบจากแอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา พบว่าหลายพื้นที่ของประเทศอยู่ในระดับเกินมาตรฐานสลับกับปานกลาง โดยจังหวัดที่พบค่า PM 2.5 มากที่สุดคือ #นครพนม #อำนาจเจริญ #บึงกาฬ ซึ่งอยู่ในระดับ 56 ไมโครกรัม ในขณะที่ทุกพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร อยู่ในระดับปานกลาง
สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่มักจะมากับเหตุการณ์ไฟป่าและจุดความร้อนคือ PM 2.5 สถานการณ์การจุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดน เนื่องจากได้รับอิทธิพจากประแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบให้กับระบบต่าง ๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม
ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำ เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ท่านสามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรงได้ GISTDA ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่
ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://fire.gistda.or.th หรือติดตามข้อมูลจาก https://fire.gistda.or.th/dashboard.html และควรติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ผ่านแอปพลิเคชั่น “#เช็คฝุ่น”