ราคาน้ำมันดิบ (3 เม.ย.) ปรับเพิ่ม ได้แรงหนุนจากอุปทานน้ำมันตึงตัว

น้ำมันดิบ
Photo by Paul Ratje / AFP

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม ได้แรงหนุนจากอุปทานน้ำมันตึงตัว และอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐลดลง

วันที่ 3 เมษายน 2566 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา ดังนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม เนื่องจากอุปทานน้ำมันมีแนวโน้มตึงตัว หลังจากที่อิรักปิดและลดกำลังการผลิตที่บ่อน้ำมันหลายแห่งในเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถานทางตอนเหนือ

ในขณะที่แหล่งข่าวรอยเตอร์ระบุว่า กลุ่มโอเปกและพันธมิตร (OPEC+) มีแนวโน้มว่าจะยึดข้อตกลงเดิม ด้วยการปรับลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในการประชุมวันที่ 3 เม.ย.นี้ โดยกำลังการผลิตของโอเปกใน มี.ค. อยู่ที่ระดับ 28.90 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งลดลง 70,000 บาร์เรลต่อวันจาก ก.พ.

โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 31 มี.ค. 2566 อยู่ที่ 75.67 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +1.30 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 79.77 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.50 เหรียญสหรัฐ

ข้อมูลดัชนีราคาจากรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐ ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อ เพิ่มขึ้น 0.6% และ 0.3% ในเดือน ม.ค. และ ก.พ. เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐกำลังชะลอตัว ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน้อยลง

Advertisment

Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มี.ค. ปรับลดลง 1 แท่นมาอยู่ที่ระดับ 592 แท่น ในขณะที่แท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติปรับลดลง 2 แท่นมาอยู่ที่ระดับ 160 แท่น

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินปรับลด โดยเฉพาะ ปากีสถาน และอินโดนีเซีย ในขณะที่อุปสงค์จากทางตะวันออกกลางเพิ่มสูงขึ้น

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ จากน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ ปรับเพิ่มขึ้น 2.33% แตะระดับ 9.85 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ราคายังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกที่เพิ่มสูงขึ้นของอินเดีย

Advertisment