กรมการค้าภายใน หารือผู้ประกอบการข้าวถุง ย้ำยังไม่มีการขึ้นราคา พร้อมขอความร่วมมือตรึงราคา จากสาเหตุอินเดียห้ามส่งออก มีผลกระทบต่อราคาข้าวสารปรับขึ้น ส่วนความเคลื่อนไหวของราคาสินค้าในสัปดาห์นี้ กลุ่มอาหารสดหลายรายการ ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง
วันที่ 11 สิงหาคม 2566 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2566 กรมการค้าภายในได้เชิญผู้ประกอบการข้าวถุง เพื่อติดตามสถานการณ์ราคาข้าวถุง จากนโยบายอินเดียที่ประกาศห้ามส่งออกข้าวขาว โดยเบื้องต้นจากการหารือผู้ประกอบการยังไม่ได้ปรับขึ้นราคา และกรมเองได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการข้าวถุงในการตรึงราคาไว้ก่อน ขณะที่กรมยังจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ราคาข้าวถุง พร้อมกำชับให้ดูแลอย่างใกล้ชิด
- “ทรู-ดีแทค” ถล่มโปร “คืนค่าเครื่อง” ย้ำรวมกันได้มากกว่า
- กรมอุตุฯเตือน 21-27 ก.ย. กทม.-ภาคกลาง-ตอ. ฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง
- เตือน 10 จังหวัด เตรียมพร้อมยกของขึ้นที่สูง รับมือสถานการณ์น้ำ
“จากการติดตามราคาข้าวถุงจำหน่ายในห้างค้าปลีกต่าง ๆ พบว่าระดับราคาไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากจะตรึงราคาคงเดิมแล้ว ยังมีการจัดโปรโมชั่นลดราคา โดยหมุนเวียนยี่ห้อกันไปต่อเนื่อง และยังไม่มีนัยสำคัญ แต่หากเกิดสถานการณ์จำเป็น กรมได้เตรียมแผนทำข้าวถุงราคาโรงงาน เพื่อนำไปเปิดจุดจำหน่ายให้ประชาชนทั่วประเทศได้ทันที โดยยึดหลัก วินวินโมเดล (win win Model) ซึ่งเป็นความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน”
อย่างไรก็ดี กรมพร้อมที่จะติดตามสถานการณ์ราคาข้าวถุงอย่างใกล้ชิด และถือว่าเกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้รับประโยชน์เต็มที่ แต่ขณะเดียวกัน กรมก็ต้องดูแลผู้บริโภค ไม่ให้ได้รับผลกระทบ และปริมาณผลผลิตข้าวไทยแต่ละปีก็เพียงพอทั้งการบริโภคภายในประเทศและเพื่อส่งออก อีกทั้งยังคงเหลือเป็นสต๊อกเพื่อความมั่นคงด้วย
จึงขอให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าจะมีข้าวบริโภคเพียงพอ ส่วนเรื่องผลกระทบต่อราคาข้าว น่าจะเกิดขึ้นในช่วงสั้น ๆ เพราะขณะนี้อินเดียก็ยังไม่ได้ชะลอการส่งออก และถือเป็นประเทศผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ที่ส่งออกข้าวอันดับ 1 ซึ่งหากห้ามการส่งออกจริงอาจจะชะลอไม่นานนัก
ส่วนสินค้ากลุ่มอาหารสด ทั้งเนื้อหมู เนื้อไก่ และผักสดหลายชนิด เริ่มปรับลดลงแล้ว เช่น คะน้า ถั่วฝักยาว กะหล่ำปลี ผัดกาดขาว ผักบุ้งจีน และมะนาว ก็ปรับลดลง รวมไปถึงราคาปุ๋ย ก็ปรับลดลงต่ำกว่าปีที่แล้วมาก//
สำหรับราคาข้าวเปลือกสัปดาห์นี้ มีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยข้าวหอมมะลิเฉลี่ยอยู่ที่ 15,600 บาทต่อตัน จากสัปดาห์ก่อน 15,125 บาท ข้าวเปลือกปทุมธานี อยู่ที่ตันละ 13,700 บาท จากสัปดาห์ก่อน 12,300 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ปรับขึ้นมาอยู่ที่ตันละ 12,500 บาท จาก 11,325 บาท และข้าวเหนียว อยู่ที่ตันละ 14,900 บาท จากสัปดาห์ก่อน 13,580 บาท
