เอสโซ่ Q2 ขาดทุน 1.7 พันล้าน บอร์ดเคาะซื้อทรัพย์สินคืน 7.6 ล้าน ก่อนควบรวมบางจาก

เอสโซ่ ประเทศไทย ขายกิจการให้บางจาก

บอร์ด “เอสโซ่” เคาะซื้อทรัพย์สินในอาคารสำนักงาน ก่อนควบรวมบางจาก 7.6 ล้านบาท พร้อมรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2566 รายได้ 51,672 ล้านบาท ขาดทุน 1,776 ล้านบาท สาเหตุจากค่าการกลั่นลดลง

วันที่ 11 สิงหาคม 2566 นางอังสนา พิเรนทร บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จากัด (มหาชน) มีหนังสือ แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเกี่ยวกับการเข้าทำธุรกรรมการซื้อทรัพย์สินกับบริษัท เอ็กซอนโมบิล จำกัด ต่อกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ภายหลังจากกรณีที่เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2566 ได้มีการแจ้งเรื่องการทำสัญญาซื้อขายหุ้นระหว่าง เอ็กซอนโมบิล เอเชีย โฮลดิ้ง พีทีอี แอลทีดี หรือ เอ็กซอนโมบิล และ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ บางจากฯ

ซึ่งเมื่อธุรกรรมการซื้อขายหุ้นเป็นผลสำเร็จบางจากฯ จะมีสถานะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทแทนเอ็กซอนโมบิล ทำให้สัญญาต่าง ๆ ที่บริษัททำกับบริษัทในเครือเอ็กซอนโมบิลรวมถึง บริษัท เอ็กซอนโมบิล จำกัด “EML” จะสิ้นสุดลงในวันที่ธุรกรรมการซื้อขายหุ้นเป็นผลสำเร็จ

               

ทั้งนี้ บริษัทได้เข้าทำสัญญาบริการกับ EML ซึ่งภายใต้สัญญาดังกล่าว EML เป็นผู้ให้บริการด้านต่าง ๆ แก่บริษัทซึ่งรวมถึงการให้บริการด้านการบริหารจัดการดูแลรักษาอาคารและบริการด้านสารสนเทศ ณ สำนักงานซึ่งตั้งอยู่ที่ เลขที่ 3195/17-29 ถนนพระรามที่ 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110 ที่บริษัทใช้เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่

และที่โรงกลั่นน้ำมันศรีราชา ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 118 หมู่ 2 ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี 20230 รวมทั้งทำการลงทุนหรือจัดหาทรัพย์สินที่ใช้ในอาคารสานักงานดังกล่าวรวมถึงระบบและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอื่น ๆ ที่ใช้โดยพนักงานของบริษัท (“ทรัพย์สินที่ใช้ในอาคารสานักงาน”) ให้แก่บริษัทด้วย

ทั้งนี้ เนื่องจากสัญญาบริการดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในวันที่ธุรกรรมการซื้อขายหุ้นเป็นผลสำเร็จ บริษัทจึงมีความจำเป็นที่จะต้องซื้อทรัพย์สินที่ใช้ในอาคารสำนักงานซึ่ง EML เป็นผู้ลงทุนหรือจัดหาให้แก่บริษัทจาก EML เพื่อให้บริษัทสามารถใช้ทรัพย์สินที่ใช้ในอาคารสานักงานได้ต่อไป ภายหลังจากที่ธุรกรรมการซื้อขายหุ้นเป็นผลสำเร็จ

ที่ประชุม คณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 8/2566 เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2566 จึงได้มีมติอนุมัติให้บริษัทซื้อทรัพย์สินที่ใช้ในอาคารสำนักงานที่ EML เป็นผู้ลงทุนหรือจัดหามาดังกล่าวจาก EML

สำหรัทรัพย์สินที่ซื้อ และราคาทรัพย์สินที่ซื้อบริษัทจะซื้อทรัพย์สินที่ใช้ในอาคารสำนักงานที่บริษัทใช้เป็นที่ตั้งสานักงานใหญ่และโรงกลั่นศรีราชาของบริษัท ซึ่ง EML เป็นผู้ลงทุนหรือจัดหามา ภายใต้สัญญาบริการที่เกี่ยวกับการให้บริการด้านการบริหารจัดการและดูแลรักษาอาคารสำนักงานระหว่างบริษัทกับ EML

เอสโซ่

โดยทรัพย์สินที่ใช้ในอาคารสำนักงาน ซึ่งต้องนำมาคำนวณขนาดรายการตามประกาศรายการที่เกี่ยวโยงกันมีจำนวนมูลค่า ทั้งสิ้น 7,610,000 บาท มีรายละเอียดดังนี้

1. อุปกรณ์ตกแต่งอาคารสำนักงาน เช่น วอลเปเปอร์ พรม หลอดไฟ เป็นต้น ราคา 2,980,000 บาท
2. อุปกรณ์ตกแต่งห้องน้ำ ในอาคารสานักงาน เช่น กระเบื้อง หลอดไฟ ฝ้า เป็นต้น ราคา 2,240,000 บาท
3. ประตูหมุนของอาคารสำนักงานและอะไหล่ 1,700,000 บาท
4. ตราบริษัท Esso 690,000 บาท

ส่วนการชำระราคาทรัพย์สินที่รับโอน ที่ใช้ในอาคารสานักงานทั้งหมดให้แก่ EML ณ วันที่ธุรกรรมการซื้อขาย
หุ้นเป็นผลำเร็จ

เอสโซ่
โดยคณะกรรมการบริหารพิจารณาแล้วเห็นว่าการซื้อทรัพย์สินที่ใช้ ในอาคารสำนักงานจาก EML ในครั้งนี้มีความสมเหตุสมผลและเป็นประโยชน์สูงสุดของบริษัทและผู้ถือหุ้น เพื่อให้บริษัทสามารถใช้ทรัพย์สินที่ใช้ในอาคารสานักงานที่บริษัทใช้เป็นที่ตั้งสานักงานใหญ่และโรงกลั่นน้ำมันศรีราชาของบริษัทได้อย่างต่อเนื่องและเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและราบรื่น ลดโอกาสที่จะเกิดการหยุดชะงัก หรือเกิดความติดขัดในการดำเนินธุรกิจของบริษัท ภายหลังจากวันที่มีธุรกรรมการซื้อขายหุ้นเป็นผลสำเร็จ

รายงานข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2566 เอสโซ่ได้รายงานผลประกอบการในไตรมาส 2/2566 ว่ามีรายได้ 51,672 ล้านบาท ขาดทุน 1,776 ล้านบาท สาเหตุจากค่าการกลั่นลดลง และผลกระทบเชิงลบของสินค้าคงเหลือ ต้นทุนทางการเงินสุทธิเพิ่มขึ้น 50 ล้านบาท ขณะที่เมื่อพิจารณารายได้สะสมครึ่งปีแรก มีรายได้รวม 111,399 ล้านบาท ขาดทุน 376 ล้านบาท

เอสโซ่