เพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 300 ลบ.ม./วินาที ไม่กระทบด้านท้ายน้ำ

เขื่อนเจ้าพระยา

กรมชลประทานแจงเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 300 ลบ.ม./วินาที ไม่กระทบด้านท้ายน้ำ

วันที่ 17 กันยายน 2566 ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยาขณะนี้ว่า

สำนักงานชลประทานที่ 12 ได้ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา พบว่าแม่น้ำเจ้าพระยาที่สถานี C2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 657 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งปริมาณน้ำนี้จะไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท

ล่าสุดจึงได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเป็น 300 ลบ.ม./วินาที จะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ไปจนถึงบริเวณ ต.บ้านกระทุ่ม ต.หัวเวียง อ.เสนา และ ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพิ่มสูงขึ้น 1-1.5 เมตร แต่ยังต่ำกว่าตลิ่งราว 7-8 เมตร จึงยังไม่ส่งผลกระทบกับชาวบ้านและชุมชน ที่อยู่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ได้มีการใช้ระบบชลประทานทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวา บริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา รับน้ำผ่านประตูระบายน้ำ (ปตร.) ต่าง ๆ อาทิ ปตร.มโนรมย์ อ.มโนรมย์ ปตร.พลเทพ อ.เมือง จ.ชัยนาท เพื่อช่วยลดปริมาณน้ำ ซึ่งปริมาณน้ำที่รับเข้าไปจะนำไปใช้อุปโภคบริโภคเป็นหลัก

สำหรับปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ที่ระบายออกทางด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น นั้น เนื่องจากต้องเตรียมรองรับร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางที่จะทำให้เกิดฝนตกหนักภาคกลาง

จึงจำเป็นต้องพร่องระบายน้ำจากพื้นที่ตอนบน ในอัตราที่เหมาะสมและไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำ หากจะมีการปรับเพิ่มการระบายอีก กรมชลประทานจะได้ประกาศแจ้งให้ประชาชนได้รับทราบในระยะต่อไป