
สนพ.ชี้ราคาน้ำมันโลกผันผวน อุปทานโลกตึงตัว เหตุซาอุฯ-รัสเซียยืดเวลาลดกำลังการผลิต ขณะที่เศรษฐกิจอียูชะลอตัว ส่วนไทยค่าเงินบาทร่วงกระทบต้นทุนน้ำมันเบนซิน-ดีเซลพุ่งพาค่าการตลาดจ่อ 2.28 บาท/ลิตร
วันที่ 25 กันยายน 2566 นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มผันผวนจากความกังวลว่าอุปทานน้ำมันโลกจะเผชิญภาวะตึงตัวต่อเนื่องหลังซาอุดีอาระเบียขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิต และรัสเซียขยายเวลาปรับลดการส่งออกน้ำมันไปจนถึงช่วงสิ้นปีนี้
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงมีความกังวลต่อสภาพเศรษฐกิจของยุโรปที่มีแนวโน้มชะลอตัว หลังคณะกรรมาธิการยุโรปปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของยูโรโซน ในปี 2566 มาอยู่ที่ +0.8% โดยชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อในยุโรปยังอยู่ในระดับสูง

อีกทั้งยังต้องจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่ง Reuters Polls คาด ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์อีก 0.25% จากระดับปัจจุบัน มาอยู่ที่ 4.00% เพื่อชะลออัตราเงินเฟ้อให้มาอยู่ที่เป้าหมายที่ 2%
เงินบาทอ่อนกระทบต้นทุนดีเซล-เบนซิน
นายวัฒนพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับค่าเงินบาทของไทยอ่อนค่าขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.34 บาท/เหรียญสหรัฐที่ระดับเฉลี่ย 35.5853 บาท/เหรียญสหรัฐ ทำให้ต้นทุนน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 0.23 บาท/ลิตร และต้นทุนน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 0.36 บาท/ลิตร ส่งผลต่อค่าการตลาดเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของน้ำมันกลุ่มเบนซิน และน้ำมันดีเซล อยู่ที่ระดับ 2.28 บาท/ลิตร
ทั้งนี้ ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 17 กันยายน 2566 กองทุนน้ำมันฯมีสินทรัพย์รวม 41,410 ล้านบาท หนี้สินกองทุน 103,051 ล้านบาท แบ่งเป็นติดลบจากบัญชีน้ำมัน 16,902 ล้านบาท บัญชีก๊าซ LPG 44,739 ล้านบาท
Spot LNG ปรับลด
นายวัฒนพงษ์กล่าวว่า นอกจากนี้ สนพ.ยังได้ติดสถานการณ์ราคาก๊าซธรรมชาติเหลว ในตลาดจร หรือ Spot LNG ช่วงระหว่างวันที่ 4-8 กันยายน 2566 พบว่าราคา Spot LNG เฉลี่ยในสัปดาห์นี้ ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อน 0.202 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู มาอยู่ที่ระดับ 12.961 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู”
นายวัฒนพงษ์กล่าวว่า แม้ความต้องการใช้จะเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดอย่างต่อเนื่อง แต่สาเหตุที่ทำให้ราคาปรับลดลงเนื่องจาก ความต้องการ LNG ในตลาดยังคงซบเซา โดยเฉพาะผู้ซื้อรายใหญ่ในภูมิภาคเอเชียเหนือที่ปริมาณ LNG Inventory คงเหลือยังคงสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา
รวมถึงปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติใน storage ของยุโรป อยู่ที่ร้อยละ 93.7 ของความจุ ซึ่งสูงกว่าข้อกำหนดของ European Commissions ที่กำหนดให้ประเทศในยุโรปต้องสำรองก๊าซธรรมชาติอย่างน้อยร้อยละ 90 ของความจุ ภายในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566
สถานการณ์ราคาน้ำมันโลก
ส่วนภาพรวมสถานการณ์ราคาน้ำมันโลก (วันที่ 4-10 กันยายน 2566) ราคาน้ำมันดิบดูไบและเวสต์เทกซัส เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 90.37 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 3.69 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และ 87.15 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
เนื่องจากความกังวลต่ออุปทานตึงตัวหลังซาอุดีอาระเบียขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมที่ 1.0 ล้านบาร์เรล/วัน จนถึงสิ้นปี ขณะที่รัสเซียปรับลดการส่งออกลง 0.3 ล้านบาร์เรล/วัน จนถึงสิ้นปีเช่นกัน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นท่ามกลางความกังวลต่ออุปทานจากการปิดซ่อมบำรุงฉุกเฉินของโรงกลั่นในสหรัฐ ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) เปิดเผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 1 กันยายน 2566 ปรับลดลง 6.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 416.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งปรับลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 5.6 ล้านบาร์เรล
ราคากลางของน้ำมันเบนซิน-ดีเซลในตลาดเอเชีย
โดยราคาน้ำมันเบนซินออกเทน 95 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 109.10 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันเบนซินออกเทน 92 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 103.35 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันเบนซินออกเทน 91 (Non-Oxy) เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 106.33 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งทรงตัวจากสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ยังรายงานปริมาณสำรองเชิงพาณิชย์ในสหรัฐ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 1 กันยายน 2566 ว่า ลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 214.7 ล้านบาร์เรล ขณะที่อุปสงค์ของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.25 ล้านบาร์เรล/วัน มาอยู่ที่ 9.32 ล้านบาร์เรล/วัน ด้าน International Enterprise Singapore (IES) รายงานปริมาณสำรอง Light Distillates เชิงพาณิชย์ในสิงคโปร์ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 กันยายน 2566 เพิ่มขึ้น 0.91 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 13.84 ล้านบาร์เรล
สำหรับราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (10 PPM) เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ121.78 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.46 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยตลาดคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันดีเซลทั่วโลกอาจปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 500,000 บาร์เรลต่อวัน ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ จากฐานตัวเลขอุปสงค์ของกลุ่มประเทศซีกโลกเหนือและจีน ซึ่งอยู่ในระดับต่ำเมื่อปีที่แล้ว
ซึ่ง Platts ได้ประเมินปริมาณส่งออกน้ำมันดีเซลของรัสเซียจากท่าทางตะวันตกในทะเลบอลติกและทะเลดำ เดือน ก.ย. 66 ลดลง 130,000 บาร์เรล/วัน มาอยู่ที่ 470,000 บาร์เรล/วัน จากโรงกลั่นขนาดใหญ่ 12 แห่ง ในประเทศปิดซ่อมบำรุง