กฟผ. ย้ำตัวเลข “พีระพันธุ์” ถูก แก้ต่างหลัง สส.ก้าวไกลพาดพิง ชี้ข้อมูลผิด-ไม่อัพเดต ยันกระแสเงินสดสิ้นปี 2566 อยู่ 91,000 ล้าน
วันที่ 5 มกราคม 2567 รายงานข่าวจากมติชน ถึงกรณีที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้อภิปรายเกี่ยวกับฐานะการเงินของ กฟผ. ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2567
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
นายชัยวุฒิ หลักเมือง ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารจัดการความยั่งยืน ในฐานะรองโฆษกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ระบุว่า สภาพคล่องกระแสเงินสดของ กฟผ.จะลดลงเหลือ 10,000 ล้านบาท ในเดือนตุลาคม 2567 และจะติดลบในเดือนธันวาคม 2567 ซึ่งอ้างอิงข้อมูลมาจาก “รายงานการประชุมของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย” นั้น
“กฟผ. ขอเรียนชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลคาดการณ์เก่า ณ เดือนตุลาคม 2566 เป็นการคาดการณ์สถานะกระแสเงินสดของ กฟผ.ที่อาจเกิดขึ้นในปี 2567 โดยใช้สมมุติฐานรายรับจากค่าไฟฟ้าที่ใช้ตัวเลขสมมุติฐานหน่วยละ 3.99 บาท จนถึงเดือนธันวาคม 2567 เพื่อสื่อสารทำความเข้าใจให้กับพนักงานเท่านั้น ไม่ใช่ข้อมูล ณ ปัจจุบันของ กฟผ.”
สำหรับข้อมูลล่าสุด ผลประกอบการและสถานะการเงินจริงของ กฟผ. ณ สิ้นปี 2566 มีกระแสเงินสดประมาณ 91,000 ล้านบาท มิใช่ 61,623 ล้านบาท ตามข้อมูลสมมุติฐานที่คาดการณ์ไว้ในเดือนตุลาคม 2566 โดย กฟผ.มีมาตรฐานการรักษาระดับเงินสดขั้นต่ำที่ต้องคงไว้ประมาณ 60,000 ล้านบาท ซึ่งจะต้องติดตามและรายงานสภาพคล่องกระแสเงินสด พร้อมวิธีการบริหารสภาพคล่องต่อคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงและควบคุมภายใน และคณะกรรมการ กฟผ. เพื่อทราบและให้ความเห็นเป็นประจำทุกเดือน
ทั้งนี้ กฟผ.จะต้องดำเนินการบริหารทางการเงินเพื่อรักษาระดับเงินสดให้อยู่ในระดับ 60,000 ล้านบาท ซึ่งยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อใช้บริหารสภาพคล่องทางการเงินของ กฟผ.