3 ชาติอาเซียนแข่งส่งออกทุเรียนไปจีน เขย่าบัลลังก์ผู้นำ “ทุเรียนไทย” ยอดวูบ

หลายชาติแข่งส่งออก “ทุเรียน” ตีตลาดจีน สถานะผู้นำ “ทุเรียนไทย” ในตลาดจีนกำลังถูกสั่นคลอน ทั้งเวียดนาม-ฟิลิปปินส์-มาเลเซีย เปิดเกมบุกแย่งส่วนแบ่งตลาดจีน เผยไตรมาสแรกปีนี้จีนนำเข้าทุเรียนไทยแค่ 13,000 ตัน ลดลง 59% เหตุร้อนแล้ง ทุเรียนไทยเข้าสู่ตลาดจีนช้ากว่าปกติและผลผลิตน้อย ขณะที่นำเข้าทุเรียนเวียดนามถึง 35,000 ตัน

วันที่ 4 พฤษภาคม 2567 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ด่านโหย่วอี้กวน หรือด่านมิตรภาพบนพรมแดนจีน-เวียดนาม ณ เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางตอนใต้ของจีน ได้รับรองการนำเข้าทุเรียนสดในไตรมาสแรกของปีนี้ (มกราคม-มีนาคม 2567) รวม 48,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 1.85 พันล้านหยวน (ราว 9.25 พันล้านบาท)

ไตรมาส 1 จีนนำเข้า “ทุเรียนไทย” ลดลง 59%

โดยการนำเข้าทุเรียนสดข้างต้น แบ่งเป็นนำเข้าจากเวียดนาม 35,000 ตัน เพิ่มขึ้น 48.1% เมื่อเทียบปีต่อปี คิดเป็นมูลค่า 1.28 พันล้านหยวน (ราว 6.4 พันล้านบาท)

และเป็นทุเรียนนำเข้าจากไทย 13,000 ตัน ลดลง 59.5% เมื่อเทียบปีช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 570 ล้านหยวน (ราว 2.85 พันล้านบาท) ถือว่ามูลค่าลดลง 63.5% เทียบกับไตรมาสแรกปีที่แล้ว

Advertisment

รายงานข่าวระบุว่า ด่านโหย่วอี้กวนของกว่างซี ถือเป็นด่านบกขนาดใหญ่ที่สุดในการนำเข้าทุเรียน ที่สามารถสะท้อนกระแสการบริโภคทุเรียนของตลาดจีน โดยศุลกากรนครหนานหนิงระบุว่า มูลค่าการนำเข้าทุเรียนสดผ่านด่านแห่งนี้ในปี 2023 รวมอยู่ที่ 2.25 หมื่นล้านหยวน (ราว 1.12 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 353% เมื่อเทียบปีต่อปี

ขณะที่สำนักงานศุลกากรทั่วไปของจีนระบุว่า จีนนำเข้าทุเรียนสดในปี 2023 ราว 1.42 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 6.71 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.47 แสนล้านบาท) โดยปริมาณทุเรียนที่นำเข้าผ่านด่านโหย่วอี้กวน คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของปริมาณทุเรียนนำเข้าทั้งหมดของจีน

ซินหัวรายงานว่า คนวงการนำเข้าทุเรียนระบุว่าปริมาณทุเรียนสดนำเข้าจากไทยผ่านด่านโหย่วอี้กวนที่ลดลงในไตรมาสแรกของปีนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากทุเรียนไทยเข้าสู่ตลาดจีนล่าช้ากว่าปกติ ประกอบกับสภาพภูมิอากาศในท้องถิ่นไทยส่งผลกระทบต่อผลผลิตทุเรียนลดลง

รายงานข่าวระบุว่า ข้อมูลการบริโภคทุเรียนของตลาดจีนชี้ว่าสถานะ “ผู้นำ” ของทุเรียนไทยในตลาดจีนกำลังสั่นคลอน เนื่องด้วยผลกระทบจากการส่งออกทุเรียนสู่จีนของแหล่งผลิตทุเรียนที่พัฒนามาทีหลังอย่างเวียดนามและฟิลิปปินส์ ทำให้ทุเรียนไทยในตลาดจีนต้องเผชิญกับการแข่งขันอันดุเดือดยิ่งขึ้น

Advertisment

ทุเรียนเวียดนามแย่งตลาด

ช่ายเจิ้นอวี่ ผู้จัดการของบริษัท กว่างซี โอวเหิง อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด เผยว่า ช่วงก่อนปี 2023 บริษัทนำเข้าทุเรียนจากไทยเท่านั้น แต่พอปี 2023 ทุเรียนที่นำเข้ามากกว่า 2,000 ตู้คอนเทนเนอร์ แบ่งเป็นทุเรียนไทยและทุเรียนเวียดนามอย่างละครึ่ง โดยบริษัทเลือกแหล่งผลิตตามความต้องการของผู้บริโภคจีน

ผู้จัดการของบริษัท กว่างซี โอวเหิงฯ กล่าวว่า การปลูกทุเรียนในไทยมักปลูกโดยครัวเรือนทั่วไป หรือกลุ่มหมู่บ้าน แต่การปลูกทุเรียนของเวียดนามมุ่งเน้นการเพาะปลูกขนาดใหญ่ รวมถึงใช้ข้อได้เปรียบจากระยะทางขนส่งสั้น ความเป็นอุตสาหกรรมระดับสูง และต้นทุนต่ำกว่า ทำให้ทุเรียนเวียดนามมีโอกาสรุกเข้าท้าชิงส่วนแบ่งตลาดจีน

โดยช่วงไม่กี่ปีมานี้ หลายประเทศอาเซียนได้รับอนุญาตส่งออกทุเรียนสดสู่จีน ทำให้โครงสร้างตลาดทุเรียนของจีนเปลี่ยนแปลงไป โดยก่อนหน้านี้ทุเรียนไทยครองส่วนแบ่งตลาดจีนมากที่สุดเสมอ จนกระทั่งเวียดนามสามารถส่งออกทุเรียนสดสู่จีนในเดือนกันยายน 2022 ทำให้ส่วนแบ่งของทุเรียนไทยในตลาดจีนลดลง

สำนักงานศุลกากรทั่วไปของจีนระบุว่า ปี 2022 จีนนำเข้าทุเรียน 825,000 ตัน ซึ่งเป็นทุเรียนไทยมากกว่า 780,000 ตัน หรือคิดเป็นเกือบ 95% ต่อมาปี 2023 จีนนำเข้าทุเรียน 1.42 ล้านตัน ซึ่งเป็นทุเรียนไทย 929,000 ตัน และทุเรียนเวียดนาม 493,000 ตัน ทำให้ทุเรียนเวียดนามครองส่วนแบ่งตลาดจีนเพิ่มขึ้นกว่า 30% ภายในหนึ่งปีและยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

จับตาทุเรียนฟิลิปปินส์บุกจีน

รายงานข่าวระบุว่า แม้ปริมาณทุเรียนสดส่งออกจากฟิลิปปินส์สู่จีนไม่ได้สูงมากแต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยศุลกากรนครหนานหนิงระบุว่าปริมาณการขนส่งทุเรียนด่วนผ่านท่าอากาศยานนานาชาติหนานหนิง อู๋ซวี ในไตรมาสแรกของปีนี้รวมอยู่ที่ 1,201 ตัน ซึ่งมาจากไทย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม โดยการนำเข้าทุเรียนฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบปีต่อปี

สวี่เฉียง รองผู้จัดการบริษัทขนส่งทุเรียนทางอากาศเผยว่า มีการนำเข้าทุเรียนจากฟิลิปปินส์ทางอากาศทุกวัน เฉลี่ยราว 4 ตันต่อเที่ยวบิน โดยต้นทุนการขนส่งไม่สูง เพราะเป็นเที่ยวบินขากลับ และการขนส่งทางอากาศช่วยการันตีรสชาติสดใหม่ด้วย

นอกจากเวียดนามและฟิลิปปินส์แล้ว ทุเรียนมาเลเซียกำลังบุกตลาดจีนเช่นกัน โดยมาเลเซียส่งออกผลิตภัณฑ์ทุเรียนแช่แข็งสู่จีนตั้งแต่ปี 2011 และส่งออกทุเรียนแช่แข็งทั้งลูกสู่จีนในปี 2019

มาเลเซียจากทุเรียนแช่แข็งถึงทุเรียนสด

ข้อมูลจากหอการค้าแห่งประเทศจีนเพื่อการนำเข้าและส่งออกอาหาร ผลผลิตพื้นเมือง ผลผลิตพลอยได้จากสัตว์ ระบุว่าปริมาณการส่งออกทุเรียนมาเลเซียแช่แข็งสู่จีนในปี 2023 อยู่ที่ 25,000 ตัน เพิ่มขึ้น 47% เมื่อเทียบปีต่อปี คิดเป็นมูลค่า 270 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9.96 พันล้านบาท) เพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบปีต่อปี

ฟาทิล อิสมาอิล กงสุลใหญ่มาเลเซียประจำนครหนานหนิง กล่าวว่าจีนกลายเป็นตลาดแห่งสำคัญของทุเรียนมาเลเซียหลังจากพัฒนามานานหลายปี โดยปัจจุบันมาเลเซียและจีนกำลังทำงานร่วมกันเพื่อการส่งออกทุเรียนสดจากมาเลเซียสู่จีน

แหล่งข่าวจากวงในอุตสาหกรรมทิ้งท้ายว่า ตลาดผู้บริโภคทุเรียนของจีนมีขนาดใหญ่และความต้องการทุเรียนไทยจะยังคงเพิ่มขึ้น แต่ทุเรียนไทยกำลังเผชิญการแข่งขันกับอีกหลายประเทศ ทำให้ไทยต้องเร่งรักษาข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน นอกจากการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด ต้องเพิ่มประสิทธิภาพของระบบขนส่งและโลจิสติกส์ ทุกภาคส่วนต้องทำงานร่วมกันเพื่อลดผลกระทบต่อสถานะ “ผู้นำ” ในตลาดจีน