หอการค้ามองสูตร ครม.ใหม่ ‘เพื่อไทย’ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลผนวกกับพรรคร่วมรัฐบาลเดิมต่อ รมต.ใกล้เคียงเดิม เดินหน้านโยบายเศรษฐกิจเดิมต่อเนื่อง เร่งเบิกจ่ายงบประมาณ เดินหน้าผ่านงบฯ ปี’68 ดัน GDP โตตามเป้า 2.2-2.7%
วันที่ 15 สิงหาคม 2567 นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สถานการณ์ประเทศไทยขณะนี้ ก็ต้องยอมรับว่าหลายฝ่ายมีความกังวลเกี่ยวกับสุญญากาศทางการเมืองที่เกิดขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจ แต่ในขณะเดียวกัน ทางฝั่งการเมืองเองก็ดำเนินการที่จะสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ขึ้นโดยเร็ว เพื่อให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าได้ต่อเนื่อง โดยทราบว่าจะมีการประชุมหารือกันภายในวันที่ 16 ส.ค.นี้ ซึ่งคาดว่ากระบวนการทางรัฐสภาทั้งหมดน่าจะเสร็จสิ้นได้ภายใน 2 สัปดาห์
หากกรณีที่พรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลผนวกกับพรรคร่วมรัฐบาลเดิมต่อ ซึ่งเชื่อว่าการแบ่งสัดส่วนรัฐมนตรีก็น่าจะใกล้เคียงเดิม ส่วนแนวนโยบายต่าง ๆ คงจะไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงมากนัก ทำให้นโยบายทางเศรษฐกิจก็จะถูกขับเคลื่อนได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนนี้จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนไทยและนานาชาติ
แม้ว่าตลาดหุ้นและอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทในช่วงนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงผันผวนบ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับผันผวนเล็กน้อยที่ยอมรับได้ โดยปัจจุบันการปรับตัวของตลาดหุ้นและอัตราแลกเปลี่ยนของไทยยังดูเข้มแข็งและมีเสถียรภาพ ส่วนนี้แสดงให้เห็นว่าความเชื่อมั่นของนักลงทุนไทยและต่างชาติ ยังคงมีความมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยจะสามารถเดินได้ต่ออย่างรวดเร็วเมื่อมีรัฐบาลใหม่เกิดขึ้นมา
ดังนั้น สิ่งที่หอการค้าฯ เน้นย้ำคือ
1.ควรมีการเลือกนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และคัดสรรรัฐมนตรีที่สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของประชาชน
2.เร่งขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม และเร่งรัดการใช้งบประมาณปี’67 ควบคู่ไปกับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย ทั้งการเดินหน้าเจรจาขยายตลาดใหม่ (FTA) เพื่อส่งเสริมการค้าและการส่งออกของไทย
“หอการค้าไทยยังคงประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้อยู่ในกรอบที่ กกร.ประเมินไว้เดิมที่ 2.2-2.7%”