‘ธรรมนัส’ รมว.เกษตร ลงพื้นที่ จ.แพร่ “อรรถกร” รมช.เกษตร ลุยอ.เวียงสา อ.ภูเพียง จ.น่าน มอบถุงยังชีพ-หญ้าอาหารสัตว์ ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม กรมชลประทานตั้งศูนย์บัญชาการเกษตรประสานงานข้อมูลน้ำ ด้านเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มการระบายน้ำ อีกรอบ เตือนพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ เฝ้าระวัง
วันที่ 24 สิงหาคม 2567 ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดแพร่ พร้อมมอบถุงยังชีพจำนวน 1,300 ถุง และข้าวสารอีก 300 ถุง ให้แก่ประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัยในเขตพื้นที่อำเภอสอง จังหวัดแพร่ โดยมี นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และรายงานสถานการณ์น้ำ ณ ที่ว่าการอำเภอสอง ก่อนจะเดินทางไปติดตามสถานการณ์น้ำที่ฝายแม่ยม ตำบลบ้านหนุน อำเภอสอง จังหวัดแพร่
เนื่องจากมีฝนตกหนักและเกิดน้ำป่าไหลหลากทางตอนบนของลุ่มน้ำยม ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้น มีน้ำเอ่อล้นตลิ่ง เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนริมแม่น้ำยมหลายแห่ง ปัจจุบัน (24 ส.ค.67 เวลา 12.00 น.) ระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำ Y.20 บ้านห้วยสัก อำเภอสอง ระดับน้ำลดลงกลับลงสู่ตลิ่งแล้ว ขณะที่ฝายแม่น้ำยม ระดับน้ำเหนือฝายสูงกว่าตลิ่งประมาณ 1.00-1.50 เมตร เนื่องจากทำการชะลอน้ำหน้าฝาย ทำให้น้ำหน้าฝายยกตัวสูงขึ้น คาดว่าจะลดลงตามลำดับ ส่วนที่สถานี Y.1C (สะพานบ้านน้ำโค้ง) อำเภอเมืองแพร่ มีน้ำไหลผ่าน 1,367 ลบ.ม.ต่อวินาที ระดับน้ำยังสูงกว่าตลิ่งประมาณ 2.25 เมตร แนวโน้มเริ่มลดลง
สำหรับการให้ความช่วยเหลือ กรมชลประทาน ได้ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและมอบถุงยังชีพ เพื่อให้กำลังใจแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ทั้งยังต้องเฝ้าระวังสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังอยู่ในช่วงฤดูฝน ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 26 – 29 ส.ค. 67 นี้ จะยังคงมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือตอนบน จึงขอให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดจนกว่าจะสิ้นสุดฤดูฝน
ด้าน นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในเขตพื้นที่จังหวัดน่าน โดยมี นายฐนันดร์ สุทธิพิศาล รองอธิบดีกรมชลประทาน ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และรายงานข้อมูลสถานการณ์น้ำ พร้อมมอบถุงยังชีพจำนวน 600 ถุง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากอุทกภัยในครั้งนี้ รวมทั้งมอบหญ้าอาหารสัตว์พระราชทานช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ในพื้นที่ ต.ไหล่น่าน อ.เวียงสา และ ต.ฝายแก้ว อ.ภูเพียง
จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องที่ผ่านมาที่จังหวัดน่าน สถานีวัดน้ำฝนอำเภอเมืองน่าน วัดปริมานน้ำฝนได้ 90.8 มิลลิลิตร ส่งผลให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย ปัจจุบันสถานการณ์น้ำเริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำเริ่มลดลง คาดว่าภายใน 1-2 วัน สถานการณ์น้ำในพื้นที่ส่วนใหญ่จะเข้าสู่สภาวะปกติ โดยปริมาณน้ำทั้งหมดจะไหลลงสู่เขื่อนสิริกิติ์
กรมชลประทาน โดยสำนักงานชลประทานที่ 2 ได้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือประชาชน รวมไปถึงบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนให้ได้มากที่สุด
กรมชลประทานตั้งศูนย์บัญชาการฯ
ล่าสุดนายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน จัดตั้งศูนย์บัญชาการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ณ ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) เพื่อใช้ในการประสานงาน รวบรวมข้อมูลร่วมกับศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย (สทนช.) ในการแก้ไขปัญหาและบรรเทาอุทกภัยในแต่ละพื้นที่ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
“จากการประชุมหารือการบริหารจัดการน้ำ(แก้ไขปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ภาคเหนือ) เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 67 ที่ผ่านมา ซึ่งนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานการประชุมฯ ได้มีข้อสั่งการให้กรมจัดตั้งศูนย์บัญชาการเพื่อใช้ในการประสานงานเรื่องน้ำท่วมดังกล่าว ”
ทั้งนี้ กรมเฝ้าระวัง ติดตาม ประเมินและวิเคราะห์แนวโน้มของสถานการณ์ รวมทั้งแจ้งเตือนภัยให้กับประชาชนได้อย่างทันท่วงที สามารถสื่อสารประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้เกี่ยวกับสถานการณ์อุทกภัย และแนวทางในการลดผลกระทบจากอุทกภัย มีการปฏิบัติงานเชิงบูรณาการในการแก้ไขและการให้ความช่วยเหลือ วิเคราะห์สถานการณ์ ประเมินความต้องการและความจำเป็น เพื่อจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักร เครื่องมือในการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัย รวมไปถึงการจัดทำรายงานสถานการณ์น้ำ ผลการดำเนินการแก้ไข บรรเทา และการให้ความช่วยเหลือ หวังให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
เตือนพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ เฝ้าระวัง
รายงานสถานการ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา วันนี้ 24 ส.ค.67 เวลา 11.00 น. เขื่อนเจ้าพระยาเริ่มทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็น 550 ลบ.ม./วินาที เตรียมรองรับปริมาณน้ำทางตอนบน พร้อมเตือนพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ เฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ สถานี C2 อ.เมืองนครสวรรค์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน 857 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำ ต่ำกว่าตลิ่ง 6.15 เมตร
สำหรับ สถานี C13 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ปริมาณน้ำไหลผ่าน 550 ลบ.ม/วินาที ระดับน้ำท้ายเขื่อน ต่ำกว่าตลิ่ง 7.41 เมตร หากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น กรมชลประทานจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะๆ ต่อไป