“นิด้า” คว้าศึกษา SEA โรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่-เทพา ธ.ค.นี้

คณะกรรมการฯ SEA ประกาศรายชื่อที่ปรึกษาที่ได้รับการคัดเลือกบริหารโครงการการศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์สำหรับพื้นที่จัดตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินภาคใต้ ยืนยันเฟ้นหาที่ปรึกษาโครงการ จาก 3 สถาบันการศึกษาชั้นนำของไทยที่ยื่นข้อเสนอ ด้วยเกณฑ์พิจารณาเข้มข้นและโปร่งใส มั่นใจได้ผู้ศึกษาโครงการฯ ที่เหมาะสม พร้อมเซ็นสัญญาภายในต้นเดือน ธ.ค. และเริ่มดำเนินการศึกษาได้ทันที

​นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ในฐานะประธานร่วมคณะกรรมการกำกับการศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) สำหรับพื้นที่จัดตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินในภาคใต้ เปิดเผยว่า ได้มีการจัดประชุมคณะกรรมการกำกับการศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์สำหรับพื้นที่จัดตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินในภาคใต้ (SEA) เป็นครั้งที่ 8 โดยคณะกรรมการฯ ขอแจ้งความคืบหน้าที่สำคัญ คือ การพิจารณาข้อเสนอโครงการการศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์สำหรับพื้นที่จัดตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินภาคใต้ ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้เปิดรับสมัครผู้สนใจยื่นข้อเสนอโครงการฯ ในเว็บไซต์ของกระทรวงพลังงานโดยมีกำหนดเวลาให้ผู้ที่สนใจยื่นข้อเสนอโครงการ ฯ กลับมายังกระทรวงพลังงาน ระหว่างวันที่ 17 กันยายน ถึง 5 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เมื่อครบกำหนดระยะเวลาเปิดรับข้อเสนอโครงการตามประกาศสำนักงาน กกพ. เรื่องการเปิดรับข้อเสนอโครงการเพื่อการส่งเสริมสังคมและประชาชนให้มีความรู้ ความตระหนัก และมีส่วนร่วมทางด้านไฟฟ้า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 โดยสาระสำคัญจะมีกรอบวงเงินไม่เกิน 50 ล้านบาทเบื้องต้นพบว่ามีผู้ยื่นเสนอโครงการทั้งสิ้น 3 ราย ได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์บริการวิชาการสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยทั้ง 3 ราย คณะกรรมการ ฯ ได้ใช้เกณฑ์การพิจารณาประกอบด้วย เกณฑ์การพิจารณากลั่นกรองตามที่สำนักงาน กกพ. กำหนด อาทิ ความสำคัญและความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ประสิทธิผลของโครงการ ประสิทธิภาพของโครงการ เป็นต้น

รวมทั้ง เกณฑ์การพิจารณากลั่นกรองในรายละเอียด อาทิ กรอบแนวคิด ขอบเขตและขั้นตอนการดำเนินงานสอดคล้องกับ TOR การแสดงให้เห็นวิธีการและกระบวนการทำงาน กระบวนการมีส่วนร่วมและการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึง ประสบการณ์ในการจัดทำหรือการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) รวมทั้งคุณสมบัติบุคลากร ซึ่งขณะนี้ คณะกรรมการ ฯ ได้พิจารณาข้อเสนอต่างๆ จากผู้ยื่นเสนอโครงการ จากสถาบันการศึกษาทั้ง 3 แห่ง และได้พิจารณาเลือกศูนย์บริการวิชาการสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์เป็นที่ปรึกษาโครงการ

สำหรับ แนวทางการดำเนินการต่อไป กระทรวงพลังงานจะส่งรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกให้สำนักงาน กกพ. คาดว่าจะสามารถเซ็นสัญญาได้ภายในต้นเดือนธันวาคม 2561 และจะเริ่มดำเนินการศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์สำหรับพื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในภาคใต้ โดยกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ คาดว่าจะได้ผลการศึกษาทั้งหมดภายในเวลา 9 เดือน เพื่อให้รัฐบาลสามารถกำหนดนโยบายการพัฒนาและจัดหาพลังงานในภาคใต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นที่ยอมรับจากประชาชน และสนับสนุนให้กระทรวงพลังงานสามารถปรับปรุงแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP) ได้อย่างมีรูปธรรม รวมทั้งส่งเสริมให้ภาคสังคมและประชาชนมีความรู้ และมีส่วนร่วมทางด้านไฟฟ้าเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน

“ผลการคัดเลือกนิด้าและจุฬาใกล้เคียงกันมากซึ่งคณะกรรมการร่วมฯให้คะเเนนผลการศึกษาของ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้าเป็นเอกฉันท์ โดยผลการคัดเลือกผ่านหลักการณ์ ข้อมูล วิชาการ มีกรอบ การรายงานผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ (SEA) ตามหลักสากล มีการศึกษาเรื่องนี้นานแล้ว และคาดว่าจะมีการลงนามสัญญาได้ในต้นเดือนธันวาคม และภายในเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2562 จะมีความชัดเจน และไม่ต้องรอแผน PDP ฉบับปรับปรุงใหม่”