กรมการค้าภายในถกเอกชน แก้ปมโขกราคา “หน้ากากอนามัย” ยันสต๊อกพอใช้ไป 4 เดือน

นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ประกอบการหน้ากากอนามัยรวม 9 บริษัท ภายหลังความต้องการหน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้นจากปัญหาไวรัสโคโรน่าและปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 ว่า ปัจจุบันสต๊อกและกำลังการผลิตขอผู้ประกอบการในขณะนี้สามารถให้บริการและจำหน่ายให้กับประชาชน หน่วยงานที่ต้องการใช้ได้เพียงพออย่างไม่ขาดแคลนไปจนถึง 4 เดือนนับจากนี้ โดยปริมาณสต๊อกปัจจุบันอยู่ที่ 100 ล้านชิ้น ส่วนกำลังการผลิตของโรงงานที่ผลิตภายในประเทศไทยหลายโรงงานเพิ่มกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการเฉลี่ยอยู่ที่ 7-8 ล้านชิ้นต่อเดือน ดังนั้น เชื่อว่าหน้ากากอนามัยทุกชนิด ทุกระดับราคา สามารถผลิตออกมาสู่ตลาดเพียงพอต่อความต้องการอย่างแน่นอน

“และไม่จำเป็นที่จะต้องมีการกักตุนสินค้า และในวันพรุ่งนี้ (30 มกราคม 2563) กรมฯจะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้าและปริมาณสินค้า เพื่อป้องกันปัญหาการกักตุนหรือฉวยโอกาสในการขึ้นราคา ทั้งนี้ หากพบเห็นว่ามีการขึ้นราคา กักตุน เอาเปรียบผู้บริโภค สามารถแจ้งมาที่กรมการค้าภายใน ซึ่งมีมาตรการดูแลและมีกฎหมายควบคุม ตาม ม.29 ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ โดยพบจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ”

 

ส่วนเรื่องของการนำเข้าหน้ากากอนามัย ปัจจุบันมีบริษัทไทยนำเข้าหน้ากากอนามัย 4-5 บริษัท โดยนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และมีจีนอยู่บ้าง โดยประเทศเหล่านี้ไม่ได้ส่งออกให้กับประเทศไทยประเทศเดียว แต่ส่งออกให้กับหลายประเทศที่มีความต้องการ และจากปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลต่อความต้องการเพิ่มสูงขึ้น การนำเข้าอาจจะไม่ได้รวดเร็วหรือจำนวนมาก แต่เชื่อว่าไม่กระทบต่อความต้องการใช้ภายในประเทศ เพราะกำลังการผลิตภายในประเทศยังเพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งปกติความต้องการใช้หน้าอนามัยต่อเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 30 ล้านชิ้น แต่เมื่อเกิดภาวะผิดปกติปัญหาฝุ่นควัน ไวรัสโคโรน่า ความต้องการเพิ่ม 40-50 ล้านชิ้นต่อเดือน

ทั้งนี้ สำหรับราคาขายหน้ากากอนามัย โดยบริษัทที่มาประชุมหารือส่วนใหญ่เป็นบริษัทนำเข้าและผลิตให้กับลูกค้าและขายให้กับพ่อค้าคนกลางเพื่อขายต่อให้กับลูกค้า โดยราคาขายเฉลี่ยหน้ากากแต่ละชนิดตามคุณภาพมาตรฐานดี (N 95) อยู่ที่ 27-70 บาทต่อชิ้น หากจำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไปการคิดราคาไม่ควรเพิ่มเกิน 5-10 บาทต่อชิ้น ถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสม แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่การตั้งราคาของพ่อค้า แต่มองว่าไม่ควรเกินจนเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค อย่างไรก็ดี บางพื้นที่อาจจะพบสินค้าขาดตลาดบ้าง เนื่องจากความต้องการเพิ่ม และบางพื้นที่มีเป็นแหล่งที่มีนักท่องเที่ยวเยอะ สามารถประสานมาที่กรมฯได้เพื่อประสานผู้ประกอบการในการกระจายสินค้าให้กับประชาชน

ด้านนายนพร เกษจรัล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.เอ็น.สกายเทรด จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้ บริษัทได้เพิ่มกำลังการจากปกติเพิ่มเติม เพื่อผลิตสินค้าตอบสนองต่อลุกค้าและตลาดที่เพิ่มขึ้น ซึ่งได้เพิ่มกำลังการผลิตตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา ในช่วงที่เริ่มมีปัญหาฝุ่นควัน และขณะนี้มีปัญหาเรื่องไวรัสเพิ่มเติม ทางบริษัทพร้อมที่จะขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติมเท่าที่จะสามารถดำเนินการได้ เพื่อให้สินค้าที่ผลิตสามารถออกมาสู่ตลาดได้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนอย่างแน่นอน