WEH ย้ำแผนเข้าเทรดตลท.แน่ “ณพ” มั่นใจประชุมผู้ถือหุ้นฉลุย

“ณพ” มั่นใจผู้ถือหุ้น WEH มีดุลพินิจ ไม่หวั่น 10 ก.ย.ปลดการบริหาร ย้ำชำระค่าหุ้นครบ ยึดหลักธรรมาภิบาล 5 ปี เดินหน้าลงทุนเต็มที่

นายณพ ณรงค์เดช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) เปิดเผยว่า วันที่ 10 ก.ย. 2563จะมีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น อาจจะมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้าง ผู้บริหารบริษัท ซึ่งมั่นใจว่า ผู้ถือหุ้นทุกคนจะใช้ดุลพินิจ และใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจอย่างรอบด้านสำหรับประเด็นที่เป็นปัญหาทั้งส่วนของคดีความมีอยู่หลายคดี ไม่ว่าจะเป็นประเด็น

ที่นายนพพร ผู้ขายหุ้นวินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง กดดันการทำงานมาโดยตลอดนั้น ปัจจุบันหลายคดีก็ยุติไป และเป็นฝ่ายชนะคดีทั้งหมด โดยเฉพาะคดีอนุญาโตตุลาการ ที่บริษัทของนายนพพร มาฟ้องเพื่อยกเลิกการขายหุ้น ซึ่งทางอนุญาโตตุลาการได้ตัดสินชี้ขาดว่าไม่สามารถยกเลิกการขายหุ้นได้ หรือคดีที่ฮ่องกงที่บริษัทของนายนพพร และครอบครัวมาฟ้องนั้น ศาลฮ่องกงได้ยกคดีทิ้งไปทั้งหมดแล้ว

“ที่ค้างคาคือหุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ฯ เราได้โอนหุ้นและชำระค่าหุ้นส่วนแรก 190 ล้านเหรียญสหรัฐแล้ว ส่วนการจ่ายโบนัสที่ถูกพาดพิง ประมาณ 525 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งไม่สามารถชำระให้ได้แน่นอน เพราะไม่เข้าเงื่อนไขที่จะได้รับโบนัสเลย ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับการได้รับสินค้าที่ไม่ถูกต้อง และเราไม่เคยผิดนัดชำระหนี้กับธนาคาร ผู้ถือหุ้นทราบดี”

โดยหากตนไม่สามารถดำรงตำแหน่งต่อไปได้ ยอมรับว่าจะส่งผลต่อเจ้าหนี้สถาบันการเงินในแผนงานของบริษัทในอนาคตส่วนหนึ่ง แต่อยากขอให้มั่นใจว่าหุ้นเป็นของใคร ดูจากผลประกอบการที่ไม่ลดลงแล้วขอให้ผู้ถือหุ้นมั่นใจว่า บริษัท

ยึดหลักการทำงานโดยมีธรรมาภิบาลมาโดยตลอด ทั้งนี้ บริษัทยืนยันจะดำเนินการตามแผนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อระดมทุนขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะพลังงานทดแทน พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และสร้างความมั่นคงให้กับผู้ถือหุ้น พร้อมเดินหน้า 8 โครงการที่มีในประเทศเต็มที่ ภายใน 5 ปีจะสามารถเพิ่มรายได้และการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

ที่ผ่านมา โครงการเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ COD ในปี 2555 จนถึงปัจจุบัน บริษัทสามารถสร้างผลการดำเนินงานเติบโตจากปริมาณการจำหน่ายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยปี 2562 บริษัทมีรายได้รวม 12,058 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 5,888 ล้านบาท ส่วนในงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทมีรายได้รวม 4,320 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,261 ล้านบาท โดยมีทุนจดทะเบียน 1,088 ล้านบาท