ซีพี-เทสโก้โลตัส ลุ้นอีก 15 วัน บอร์ดแข่งขันยืดเคาะผลควบกิจการ

การประชุมบอร์ดแข่งขันการค้า ลุ้นขยายการพิจารณาควบรวมกิจการของ ซีพี กับ เทสโก้โลตัส ออกไปอีก 15 วันหลังครบกำหนด 90 วัน ตั้งเป้าต้องศึกษาผลกระทบด้านธุรกิจ การตลาด การผูกขาดให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจ

นายสกนธ์ วรัญญูวัฒนา ประธานกรรมการการแข่งขันทางการค้า เปิดเผยว่า ในวันที่ 29 ตุลาคม 2563 คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (บอร์ดแข่งขัน) ได้มีการประชุมหารือเพื่อพิจารณาการควบรวมกิจการของบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) กับ บริษัทเทสโก้ สโตร์ส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Tesco Lotus จากภายหลังที่คณะอนุกรรมการด้านการพิจารณาโครงสร้างตลาด ได้ทำการศึกษาข้อมูลต่าง ๆ จากการรวบรวมข้อมูลเอกสารทั้งหมดที่ได้จากซีพีและเทสโก้ โลตัส

เพื่อประกอบการพิจารณาเพื่อว่าซีพีเข้าข่ายที่จะต้องขออนุญาตในการควบรวมกิจการหรือไม่ ภายใต้กฎหมายแข่งขันทางการค้าปี 2560 อีกทั้งเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ประกอบการในตลาดมากที่สุด

เบื้องต้น กำหนดกรอบการพิจารณาการควบรวมกิจการของบริษัทซีพี และเทสโก้ สโตร์ส จะครบกำหนด 90 วัน คือวันที่ 30 ตุลาคม 2563 ซึ่งตามกฎหมายแข่งขันสามารถขยายเวลาในการพิจารณาออกไปได้อีก 15 วัน โดยที่ประชุมมีแนวโน้มว่าจะขยายเวลาการพิจารณาออกไปเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความรอบคอบมากที่สุด

สกนธ์ วรัญญูวัฒนา

เนื่องจากจะต้องมีการพิจารณาอย่างรอบด้าน มองให้ครบ 360 องศา ทั้งเรื่องของผลกระทบในตลาด การแข่งขัน การผูกขาด ซึ่งต้องพิจารณาตลอดซัพพลายเชน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบในการแข่งขันทางการค้าของผู้ประกอบการในตลาดด้วย

“ทางกฎหมายแข่งขันฯ สามารถขยายเวลาออกไปได้ เพื่อพิจารณาให้เกิดความรอบคอบมากที่สุด ตอนนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าผลการประชุมจะเป็นอย่างไร หรือจะต้องขยายเวลาเพื่อพิจารณาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ โดยจะต้องรอผลการประชุม บอร์ดครั้งนี้ก่อน ส่วนข้อมูลจะต้องมีการขอเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ตอนนี้ไม่จำเป็นแล้วถือว่าข้อมูลครบถ้วนรอการพิจารณาจากบอร์ดตัดสินอย่างเดียว”

สำหรับแนวโน้มการพิจารณาและโอกาสความเป็นไปได้สำหรับกรณีดังกล่าวมีอยู่ 2 แนวทาง คือ การควบรวมกิจการของซีพีและเทสโก้ โลตัส เข้าข่ายขออนุญาตและไม่ขออนุญาต โดยการขออนุญาตนั้นจะพิจารณาตามเงื่อนไขของกฎหมายแข่งขัน

ซึ่งการขออนุญาตมีลักษณะที่มีเงื่อนไขและไม่มีเงื่อนไข และหากไม่มีการดำเนินการตามเงื่อนไขดังกล่าวก็จะมีโทษทางกฎหมาย ซึ่งอาจจะไม่อนุญาตให้มีการประกอบกิจการ ส่วนกรณีที่เข้าข่ายต้องไม่ขออนุญาตนั้น คือ การควบรวมกิจการถือเป็นผู้ที่มีอำนาจเหนือตลาดกระทบต่อตลาด ดังนั้นก็อาจจะไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธุรกิจใดที่จะต้องแจ้งผลการรวมกิจการ เช่น มียอดเงินขายของผู้ประกอบธุรกิจรายหนึ่งหรือรวมกันตั้งแต่ 1,000 ล้านบาท ขึ้นไป นับรวมยอดเงินขายของบรรดาผู้ประกอบธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กันทางนโยบายหรืออำนาจสั่งการด้วย ไม่ผูกขาดและเป็นผู้มีอำนาจเหนือตลาด ยกเว้น การรวมธุรกิจเพื่อปรับโครงสร้างภายในของผู้ประกอบการธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กับทางนโยบายหรืออำนาจสั่งการโดยไม่ต้องแจ้งผลการรวมธุรกิจ

ขณะที่ ธุรกิจใดที่ต้องขออนุญาตรวมธุรกิจ มียอดเงินขายของผู้ประกอบธุรกิจรายหนึ่งหรือรวมกันตั้งแต่ 1,000 ล้านบาท ขึ้นไป นับรวมยอดเงินขายของบรรดาผู้ประกอบธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กันทางนโยบายหรืออำนาจสั่งการด้วย อาจก่อให้เกิดการผูกขาด หรือ เป็นผู้มีอำนาจเหนือตลาด

ทั้งนี้ การรวมธุรกิจที่ยอดเงินขายของผู้ประกอบธุรกิจรายใดรายหนึ่งหรือของผู้ประกอบธุรกิจที่จะรวมธุรกิจในตลาดใดตลาดหนึ่งรวมกันตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป และอาจก่อให้เกิดการผูกขาดหรือการเป็นผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาดต้องขออนุญาต

อย่างไรก็ดี ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตให้รวมธุรกิจมีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติดำเนินการตามระยะเวลาและเงื่อนไขที่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ให้คณะกรรมการแข่งขันฯ มีอำนาจเพิกถอนคำสั่งอนุญาตทั้งหมดหรือบางส่วน โดยจะกำหนดระยะเวลาให้ปฎิบัติไว้ด้วยก็ได้

รายงานข่าวระบุว่า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) และบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อเดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ว่าบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ได้ทำการซื้อหุ้นบริษัทเทสโก้ สโตร์ส (ประเทศไทย) จำกัด

ทั้งนี้ การซื้อหุ้นดังกล่าวจะทำให้บริษัทในเครือซีพีได้สิทธิในบริษัทในบริษัทเอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จํากัด ซึ่งประกอบธุรกิจค้าปลีกภายใต้เครื่องหมายการค้า Tesco Lotus ในไทย รวมทั้งซื้อหุ้นบริษัท Tesco Stores (Malaysia) Sdn.Bhd. ซึ่งประกอบธุรกิจค้าปลีกภายใต้เครื่องหมายการค้า Tesco ในประเทศมาเลเซีย

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2563 ระบุถึงการซื้อหุ้นดังกล่าวจะทำให้ซีพีได้สินทรัพย์มูลค่า 338,445 ล้านบาท แต่เงื่อนไขการซื้อสินทรัพย์ดังกล่าวจะต้องได้รับการอนุญาตจากคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าของไทย และ Ministry of Domestic Trade and Consumers Affairs ของประเทศมาเลเซีย

สำหรับธุรกิจ Tesco Lotus ในประเทศไทย ประกอบด้วยไฮเปอร์มาร์เก็ต 214 สาขา ตลาดโลตัส 179 สาขา Tesco Express 1,574 สาขา และการให้เช่าพื้นที่ในศูนย์การค้า 191 สาขา (ข้อมูลเดือน ส.ค.2562)

ส่วนธุรกิจในมาเลเซียประกอบด้วยไฮเปอร์มาร์เก็ต 46 สาขา ซูเปอร์มาร์เก็ต 13 สาขา ร้านค้าขนาดเล็ก 9 สาขา และให้เช่าพื้นที่ในศูนย์การค้า 56 สาขา (ข้อมูลเดือน ส.ค. 2562) โดยเทสโก้ ประเทศมาเลเซียได้พัฒนามาเป็นผู้นำในด้านกิจการค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศมาเลเซีย