ชิคเก้น ออฟ เดอะ ซี ในเครือไทยยูเนี่ยน บรรลุข้อตกลงเพื่อระงับข้อพิพาทในคดีผูกขาดทางการค้า ในสหรัฐ
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ทียู กล่าวว่า บริษัท ชิคเก้น ออฟ เดอะ ซี อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัท ไทยยูเนี่ยน ที่ดำเนินธุรกิจอาหารทะเลบรรจุภัณฑ์ในประเทศสหรัฐอเมริกา ประกาศว่า สามารถเจรจาเพื่อตกลงระงับข้อพิพาทเพื่อยุติคดีผูกขาดทางการค้าทั้งหมดได้สำเร็จแล้ว
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- ล้งกระหน่ำทุบราคามังคุด จากโลละ 200 เหลือ 60 บาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
ทั้งนี้ บริษัท ชิคเก้น ออฟ เดอะ ซี อินเตอร์เนชั่นแนล ถูกกล่าวหาในปี 2560 ว่ามีส่วนร่วมในการแข่งขันทางการค้าอย่างไม่เป็นธรรมในตลาดทูน่าของประเทศสหรัฐอเมริกา และได้มีกลุ่มลูกค้า ผู้บริโภคได้ร่วมกันดำเนินคดีแบบกลุ่มเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว
บริษัทได้เจรจาเพื่อตกลงระงับข้อพิพาทเพื่อยุติคดีผูกขาดทางการค้าทั้งหมดได้สำเร็จแล้ว โดยปัจจุบันเหลือเพียงการดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายเพื่อให้ศาลอนุมัติตามข้อตกลงที่คู่ความได้เจรจายุติกันแล้วเท่านั้น
การระงับข้อพิพาทในคดีผูกขาดทางการค้าดังกล่าวถือเป็นจุดสิ้นสุดของคดีผูกขาดทางการค้าทั้งหมดของบริษัท ชิคเก้น ออฟ เดอะ ซี อินเตอร์เนชั่นแนล และไทยยูเนี่ยน
“ผมมีความยินดีที่ข้อพิพาทต่างๆ ในคดีผูกขาดทางการค้าได้สิ้นสุดลง ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้พยายามอย่างเต็มที่ จนเราสามารถเจรจาระงับข้อพิพาทกับกลุ่มต่าง ๆ ที่เรียกร้องค่าเสียหายได้สำเร็จ” นายธีรพงศ์ กล่าว
“ชิคเก้น ออฟ เดอะ ซี อินเตอร์เนชั่นแนล มีการปรับเปลี่ยนอย่างมากในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง เรายังมองไปยังอนาคต จะเห็นได้ว่าแบรนด์ ชิคเก้น ออฟ เดอะ ซี เองได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในธุรกิจและอุตสาหกรรม”
“ชิคเก้น ออฟ เดอะ ซี อินเตอร์เนชั่นแนล ยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ต่อไปในอนาคต บริษัทฯ มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องด้วยนวัตกรรม เช่น ผลิตภัณฑ์ อินฟิวชั่นส์ ทูน่าพร้อมทานในถ้วย ควบคู่ไปกับการทำงานด้านความยั่งยืนผ่านกลยุทธ์ของไทยยูเนี่ยนที่มีชื่อว่า SeaChange® ได้รับการยอมรับจากแวดวงสื่อในอุตสาหกรรม มีการทำงานร่วมกับองค์กรต่างๆ ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อให้ความช่วยเหลือแจกจ่ายอาหารมากกว่า 3 ล้านชุดให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ” นายธีรพงศ์ กล่าว
บริษัท ชิคเก้น ออฟ เดอะ ซี อินเตอร์เนชั่นแนล ยังคงยืนยันในการมุ่งมั่นทุ่มเทดูแลลูกค้าและทำงานร่วมกับบริษัทคู่ค้าเพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และในฐานะผู้นำในธุรกิจอาหารทะเลบรรจุกระป๋องมาอย่างยาวนาน บริษัทฯ และกลุ่มไทยยูเนี่ยน ยังมุ่งมั่นพัฒนาด้านนวัตกรรมและนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดในสหรัฐอเมริกา เช่น อินฟิวชั่นส์ และ ไวลด์ แคช ควบคู่ไปกับผลิตภัณฑ์หลักต่างๆ ทั้งปลาทูน่า ปลาแซลมอน และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ
นอกจากนี้ บริษัท ชิคเก้น ออฟ เดอะ ซี อินเตอร์เนชั่นแนล และกลุ่มไทยยูเนี่ยน ยังได้ร่วมกันเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินธุรกิจให้กับอุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก ซึ่งรวมไปถึงการฝึกอบรมอย่างเข้มงวดในเรื่องการปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อกำหนด การปรับหลักจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการดำเนินงานตามกลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange® ซึ่งได้รับรางวัลระดับโลกมากมาย เพื่อนำความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมอาหารทะเล และดูแลผู้บริโภค คู่ค้า พนักงานสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติให้ดียิ่งขึ้น
สำหรับบริษัท ไตร-ยูเนี่ยน ซีฟู้ดส์ หรือรู้จักในนาม ชิคเก้น ออฟ เดอะ ซี อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลที่ดีต่อสุขภาพ รวมถึงรสชาติอร่อยและมีการจัดหารอย่างมีความรับผิดชอบ นอกจากผลิตภัณฑ์ต่างๆ แล้ว ยังมีสูตรอาหารและข้อมูลการวางแผนมื้ออาหารเชิงลึกที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่รักในอาหารทะเลได้ลองไอเดียใหม่ ๆ ในการทำอาหาร
ชิคเก้น ออฟ เดอะ ซี มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย ทั้ง ทูน่า แซลมอน หอยลาย ปู หอยนางรม กุ้ง ปลาแมคเคอเรล ปลาคิปเปอร์ ปลาซาร์ดีน ทั้งบรรจุกระป๋อง ถ้วย และถุง รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนทางเลือกต่าง ๆ ที่กำลังเป็นที่นิยมในสหรัฐอเมริกา บริษัทมุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพอาหารเพื่อตอบสนองผู้บริโภคในแถบอเมริกาเหนือเพื่อที่จะเป็นบริษัทอาหารทะเลที่น่าเชื่อถือที่สุดของโลก
บริษัทมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเอล เซกุนโด แคลิฟอร์เนีย บริษัทฯ มีนโยบายจัดหาวัตถุดิบจากทั่วโลก โดยการประมงที่ใช้วิธีการที่มีความรับผิดชอบ และบรรจุภัณฑ์โดยเทคโนโลยีขั้นสูงในโรงงานที่เมืองลีออนส์ จอร์เจีย และโรงงานอื่น ๆ ที่บริษัทได้ทำการจ้าง บริษัทมีทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ และมีประวัติอันยาวนานกว่า 300 ปี ในการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค