“รังสรรค์ สบายเมือง” นายก ส.โรงสีป้ายแดง

รังสรรค์ สบายเมือง นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย
รังสรรค์ สบายเมือง นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย
สัมภาษณ์พิเศษ

หลังจากคว้าชัยขึ้นรับตำแหน่งนายกสมาคมโรงสีข้าวไทยคนใหม่เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2563 “รังสรรค์ สบายเมือง” ใช้เวลาฟอร์มทีมงานนานนับเดือน โดยตั้งคณะทำงานตามไลน์การผลิต ทั้งข้าวขาว ข้าวหอมมะลิ ข้าวเหนียว เพื่อระดมพลังช่วยเหลือสมาชิก

“ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสสัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การค้าข้าวท่ามกลางวิกฤต และการปรับตัวรับข้าวขาวพื้นนุ่มสายพันธุ์ใหม่ที่ออกสู่ตลาดในปีนี้

แนวโน้มตลาดข้าวไตรมาส 1

ถ้าเทียบจากการซื้อข้าวเปลือกของทางโรงสีกับปีก่อน เห็นว่าแนวโน้มผลผลิตข้าวนาปรังปี 2564 จะมีมากกว่าปีที่แล้ว เพราะเมื่อปีที่แล้วเรามีภัยแล้ง

“ปีนี้ตลาดในประเทศจะเป็นพระเอกที่พยุงราคาข้าวของไทย ที่พูดอย่างนั้นก็เพราะตอนนี้ราคาข้าวในประเทศสูงกว่าราคาส่งออก แม้ว่าตอนนี้ราคาข้าวเริ่มที่จะนิ่งแล้ว แต่ราคาปรับสูงขึ้นทุกรายการ เช่น ข้าวเปลือกหอมมะลิที่แห้ง ตันละ 12,000-13,000 บาท ซึ่งราคานี้สีเป็นข้าวสารแล้วส่งออกก็ต้นทุนสูง ขาดทุน เน้นขายในประเทศ”

อย่างไรก็ตาม ราคาตลาดตอนนี้ยังเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาประกันรายได้ที่กำหนดไว้ตันละ 15,000 บาท ยังต้องชดเชยให้เกษตรกร ซึ่งหลังจากการประชุมคณะอนุฯเมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมามีการคลาดเคลื่อนของตัวเลข ทำให้การจ่ายเงินรอบต่อไปอาจจะช้านิดหน่อย แต่ก็คงจะสรุปได้ในสัปดาห์ถัดไป ซึ่งการประกันรายได้คู่ขนานกับโครงการที่รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ย 3% นั้น มีส่วนทำให้เกิดเสถียรภาพด้านราคาได้ระดับหนึ่ง

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดข้าว

ปัจจัยที่มีผลโดยตรงคือ demand ถ้าเมื่อไหร่มีมากกว่า supply ราคาก็จะขึ้น ในทางตรงกันข้าม ก็เหมือนกัน เป็นหลักปกติ แต่ปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลกับราคาข้าวก็คือ การส่งออก ค่าเงินบาท ค่าขนส่ง รวมถึงนโยบายรัฐ

ส่วนการปลูกข้าวพันธุ์ใหม่อย่างข้าวขาวพื้นนุ่มซึ่งเริ่มจะมีการปลูกและเก็บเกี่ยวมาบ้างในปีนี้ แต่ยังมีปริมาณไม่มากนัก เป็นการทดลองทำตลาดของทั้งชาวนา โรงสี และผู้ส่งออก จึงยังไม่ได้เห็นผลชัดเจน

รับซื้อข้าวขาวพื้นนุ่มปีแรก

ตอนนี้อาจจะมีบางพื้นที่ที่เริ่มได้รับผลกระทบบ้าง เพราะชาวนาที่เคยปลูกข้าวขาวหันมาปลูกข้าวนุ่ม เบื้องต้นมีผลให้ปริมาณข้าวขาวลดลง วัตถุดิบสำหรับผลิตแป้งข้าวหรือเส้นก๋วยเตี๋ยวก็จะลดลงทั้งที่ปริมาณความต้องการเท่าเดิม เราไม่สามารถนำข้าวขาวพื้นนุ่มไปทำแป้งหรือเส้นก๋วยเตี๋ยวได้ เพราะมีความหนืดไม่พอต้องใช้ข้าวพื้นแข็ง ซึ่งปกติจะใช้ข้าวขาวเป็นหลัก

โรงสีจะได้รับเอฟเฟ็กต์อย่างไร

โรงสีก็ต้องปรับ เดิมมีโรงสีที่ถนัดในการซื้อหรือทำข้าวแต่ละชนิด เช่น ข้าวขาว ข้าวนึ่ง ข้าวหอม ตอนนี้โรงสีก็เริ่มมีการรับซื้อข้าวขาวพื้นนุ่มบ้างในบางพื้นที่โดยส่วนใหญ่ให้ราคาใกล้เคียงกับข้าวขาว ซึ่งจัสมิน ข้าวหอมปทุมธานีเป็นข้าวพื้นอ่อนก็จะราคาสูง ส่วนข้าวขาวพื้นแข็งก็จะราคาต่ำกว่า

“วันนี้ยังไม่ได้แยกเกรดชัดเจนระหว่างข้าวขาวพื้นนุ่มกับข้าวขาว ซึ่งโรงสีให้ราคาใกล้เคียงกัน เพราะดูลักษณะทางกายภาพเวลาข้าวเปลือกที่มาขายเหมือนกันเลยเวลาสีเป็นข้าวสารให้ผู้ส่งออก ก็จะจัดอยู่ในกลุ่มข้าวขาว ข้าวพื้นนุ่มนี้ยังไม่มีการออกมาตรฐาน ทราบว่าทางกระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างจัดทำประกาศมาตรฐานข้าวชนิดนี้อยู่”

ปัญหาด่วนเร่งแก้สภาพคล่อง

โรงสีเป็นธุรกิจที่ใช้กระแสเงินสดเยอะมากในการดำเนินการ จึงต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจ และการสนับสนุนจากสถาบันการเงินอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในสถานการณ์ที่มีโรคระบาดปัจจุบัน
ยิ่งทำให้ดำเนินธุรกิจยากขึ้นไปอีก

“ผมก็ยังมองว่า สมาคมจะสามารถช่วยสมาชิกได้ ในการดำเนินการติดต่อประสานสถาบันการเงิน หน่วยงานราชการได้อย่างราบรื่น โดยจะต้องอาศัยความสามัคคีของสมาชิกนำพาให้พวกเรา
ผ่านพ้นวิกฤตไปด้วยกัน”
“ผมมองว่าโลกเปลี่ยนไปไวขึ้น”


“การทำธุรกิจก็เหมือนกัน มีการ disrupt กันของธุรกิจ ทำให้บางธุรกิจไม่สามารถไปต่อได้ โรงสีเองก็เป็นเฟืองตัวหนึ่งในอุตสาหกรรมข้าวที่เกี่ยวเนื่องจากต้นน้ำไปปลายน้ำ อยากให้มีการสนับสนุนต้นน้ำหรือเกษตรกรชาวนาให้ได้มากพอและรวดเร็วทันเหตุการณ์ เพราะถ้าต้นน้ำดี ที่เหลือก็จะดีตาม ๆ ไปเอง”