กยท.ย้ำชัด มาเลเซียขยายเวลาล็อกดาวน์ ไม่ส่งผลกระทบตลาดยางไทย ชี้ยังส่งออกยางได้ปกติบวกกับจีนยังต้องการวัตถุดิบยางสำหรับเดินหน้าขยายการผลิตอุตสาหกรรมยางล้อ
วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 นางสาวอธิวีณ์ แดงกนิษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจยาง การยางแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า จากสถานการณ์ที่มาเลเซียประกาศขยายเวลาล็อกดาวน์ประเทศ จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตยางและราคายางในตลาดของไทย เนื่องจากเป็นเพียงการจำกัดช่วงเวลาในการขนส่งผ่านด่านระหว่างไทย-มาเลเซีย เพื่อรองรับมาตรการคัดกรองโรคโควิด-19 เท่านั้น ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาแล้ว อีกทั้งการส่งออกยางพาราจากไทยไปมาเลเซียก็ยังทำได้ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากเดิม ธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมยังคงดำเนินไปตามปกติ จึงไม่อยากให้เกษตรกรชาวสวนยาง ผู้ประกอบการกังวลใจในเรื่องดังกล่าว
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ในขณะเดียวกัน ความต้องการยางยังขยายตัว เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมของประเทศผู้ซื้อยางรายใหญ่อย่างประเทศจีน ยังคงเดินหน้าผลิตสินค้าเพื่อให้ทันตามออร์เดอร์ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมประเภทยานยนต์ ดังนั้น จีนจึงต้องการยางพาราจากไทย ทั้งยางแห้ง ยางแท่ง และยางแผ่น เพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตยางล้อ โดยในเดือนที่ผ่านมาจีนมีกำลังการผลิตอุตสาหกรรมยางล้อที่ 60% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว โดยเฉพาะเมืองซานตง ซึ่งเป็นแหล่งผลิตยางล้อรายใหญ่จีน
“ขอย้ำว่า ปริมาณผลผลิตยางในปัจจุบันยังไม่มากเนื่องจากเพิ่งเริ่มเข้าสู่ฤดูกาล ซึ่งสมดุลกับความต้องการใช้ยาง แม้มาเลเซียจะขยายเวลาล็อกดาวน์ประเทศต่อไป แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดของไทย จึงขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้เข้าใจสถานการณ์ยางในปัจจุบัน ทั้งนี้ กยท.จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง ผู้ประกอบการยาง เพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว” นางสาวอธิวีณ์กล่าว