SPRC เผย ปิดรอยปริทุ่นผูกเรือน้ำลึกสำเร็จ เยียวยาแล้วกว่า 98 ล้านบาท

SPRC เผยพันท่อปิดรอยปริบริเวณที่ได้รับความเสียหายที่ทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล (SPM) สำเร็จแล้ว พร้อมดูดน้ำมันออกจากท่ออ่อนใต้ทะเลต่อเนื่อง เดินหน้าจ่ายเงินช่วยเหลือชาวระยองรวมกว่า 98 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 2,981 ราย

วันที่ 21 มีนาคม 2565 นายโรเบิร์ต โดบริค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทยืนยันหลังจากที่ได้ดำเนินการพันท่อและดำเนินการปิดรอยปริบริเวณที่ได้รับความเสียหายที่ทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล (SPM) สำเร็จแล้ว โดยได้ดำเนินการดูดน้ำมันออกจากท่ออ่อนใต้ทะเลที่ได้รับความเสียหายปฏิบัติการดังกล่าวสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

ตลอดขั้นตอนการดำเนินงาน SPRC ได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานหลักของภาครัฐ และให้ความสำคัญสูงสุดต่อสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน ฝ่ายปฏิบัติการ ชุมชนท้องถิ่น และสภาพแวดล้อมโดยรอบ ซึ่งความสำเร็จในการดูดน้ำมันที่ค้างอยู่ในท่ออ่อนที่ได้รับความเสียหายได้อย่างปลอดภัย นับเป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือกันอย่างเต็มที่ของพันธมิตรทั้งหมดนับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการ โดยบริษัทขอขอบคุณทุกภาคส่วนสำหรับการทำงานร่วมกันอย่างมืออาชีพตลอดมา

ทั้งนี้ กรมเจ้าท่าได้อนุมัติขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ซึ่งรวมถึงการดำเนินการยกท่อที่ได้รับความเสียหายขึ้นจากใต้ทะเลเพื่อมาตรวจสอบ บริษัmจะยังคงปฏิบัติการภายใต้ความร่วมมือและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง แม้ว่าปฏิบัติการดูดน้ำมันออกจากท่ออ่อนใต้ทะเลจะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีแล้ว แต่ SPRC จะยังคงจัดทีมเฝ้าระวังและตอบสนองทั้งในทะเลและบนชายฝั่งอย่างเต็มความสามารถ

อย่างไรก็ตาม SPRC ยังคงอยู่ในระหว่างการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมในวงกว้างโดยอาศัยความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยในประเทศไทยหลายแห่ง

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องให้แก่กลุ่มประมงท้องถิ่น กลุ่มร้านอาหาร และกลุ่มอาชีพอื่น ๆ ที่ลงทะเบียนขอรับเงินช่วยเหลือจากการได้รับผลกระทบ จนถึงวันนี้บริษัทได้จ่ายเงินช่วยเหลือรวมเป็นจำนวนเงินกว่า 98 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 2,981 ราย

ทั้งนี้ บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลืออย่างเป็นธรรม สมเหตุสมผลและรวดเร็ว พร้อมเดินหน้าศึกษาและรวบรวมข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวให้ดียิ่งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อสังคมในการฟื้นฟูธรรมชาติให้กับชาวระยองต่อไป