ปตท.สผ. ผนึก 5 พันธมิตร ผุดโรงงานกรีนอีเมทานอลแห่งแรกในอาเซียน

PTTEP
Photo by Lillian SUWANRUMPHA / AFP

ปตท.สผ. จับมือ 5 บริษัทนานาชาติชั้นนำ ศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้ง “โรงงานผลิตกรีนอีเมทานอล” (Green e-methanol) เชื้อเพลิงคาร์บอนต่ำที่ได้จากการดักจับคาร์บอนไดออกไซด์ชีวภาพ หากผลศึกษาประสบความสำเร็จ จะเริ่มก่อสร้างโรงงานต้นแบบที่ประเทศสิงคโปร์ แห่งแรกในอาเซียน ช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก

วันที่ 6 เมษายน 2565 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ร่วมกับพันธมิตร 5 บริษัท ประกอบด้วย แอร์ ลิควิด (Air Liquide) วายทีแอล พาวเวอร์เซรายา (YTL PowerSeraya Pte. Limited) ออยล์แทงค์กิ้ง เอเชีย แปซิฟิก (Oiltanking Asia Pacific Pte. Ltd.) เคนออยล์ มารีน เซอร์วิส (Kenoil Marine Services Pte Ltd) และ เอ.พี. โมลเลอร์-เมอส์ก เอ/เอส (A.P. Moller-Maersk A/S) ลงนามในบันทึกข้อตกลง “Green Methanol Value Chain Collaboration” เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2565

เป้าหมายเพื่อร่วมกันศึกษาโอกาสและความเป็นไปได้ ในการจัดตั้งโรงงานผลิตกรีนอีเมทานอลซึ่งเป็นหนึ่งในเชื้อเพลิงทางเลือกตามเป้าหมายขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (International Maritime Organization-IMO) ปี ค.ศ. 2030/2050 ที่จะสามารถช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างเป็นรูปธรรม

ความร่วมมือในครั้งนี้จะมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมเดินเรือและการขนส่งของประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีความต้องการใช้พลังงานที่หลากหลายเพื่อช่วยในการลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อีกทั้งสิงคโปร์เป็นศูนย์กลางการเติมเชื้อเพลิงเรือ (Bunkering hubs) ที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของโลก มีโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ รองรับ รวมถึงการสนับสนุนจากการท่าเรือแห่งประเทศสิงคโปร์

โดยทั้ง 6 บริษัท จะร่วมกันศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งโรงงานต้นแบบครั้งนี้ ทั้งในเชิงเทคนิคและเชิงพาณิชย์ให้แล้วเสร็จภายในปี 2565 หากประสบความสำเร็จ จะสามารถเดินหน้าการก่อสร้างโรงงานผลิตกรีนอีเมทานอลต้นแบบแห่งแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ประเทศสิงคโปร์

เบื้องต้นคาดว่าโรงงานดังกล่าว จะมีกำลังการผลิตกรีนอีเมทานอลอย่างน้อย 50,000 ตันต่อปีซึ่งจะช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมการเดินเรือหันมาใช้ประโยชน์จากเชื้อเพลิงทางเลือก

สำหรับกระบวนการผลิตกรีนอีเมทานอลครั้งนี้ จะใช้เทคโนโลยีการดักจับคาร์บอนไดออกไซด์ชีวภาพ (Biogenic CO2) และการผลิตกรีนไฮโดรเจน โดยนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ในการผลิต ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ตามเป้าหมาย


ความร่วมมือดังกล่าว สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ร่วมกันของทั้ง 6 บริษัท ในการช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และนับเป็นก้าวสำคัญที่จะผลักดันให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากกรีนอีเมทานอล