เปี๊ยะลาวาเซเว่นยอดพุ่ง ผลิตวันละ 4.5 หมื่นกล่อง

“เปี๊ยะโมจิลาวาไข่เค็มเซเว่นฯ” แบรนด์เอพริลฯ ตั้งเป้าหมายปี’65 โต 200% ยอดขายพุ่งจากวันละ 2 หมื่น เป็น 4.5 หมื่นกล่อง ขยายโรงงานเพิ่มกำลังการผลิต พร้อมบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบ-แพ็กเกจจิ้ง

นางสาวกนกกัญจน์ มธุรพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท Shigha Food Industries (Thailand) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าแบรนด์เอพริล เบเกอรี่ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาพรวมของธุรกิจในปีนี้คาดว่าจะมียอดขายเติบโต 200% เพราะขณะนี้ยอดขายช่วงต้นปี 2565 เติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าขนมเปี๊ยะโมจิลาวาไข่เค็มซึ่งเป็นสินค้าแชมเปี้ยน ที่ได้ขยายการจำหน่ายเข้าสู่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ได้รับความนิยมมากขึ้น ต้องผลิตเพิ่มขึ้นจาก 20,000 กล่อง เป็น 45,000 กล่องต่อวัน

สำหรับสินค้าที่จำหน่ายในเซเว่นฯ 13,000 สาขา นอกจากเปี๊ยะโมจิลาวาไข่เค็มแพ็ก 4 ชิ้น ราคา 39 บาทแล้ว จะมีขนมเปี๊ยะถั่วไข่เค็ม 2 ชิ้น 29 บาท ซึ่งทำให้แบรนด์เอพริล เบเกอรี่เป็นที่รู้จักในอีกมุมหนึ่ง จากเดิมที่มีขนมพายหมูแดงสูตรฮ่องกงที่เป็นสินค้าตัวแรก จุดเด่นของขนมลูกค้าชอบแป้งยืด แป้งและไส้รสชาติอร่อย แม้ว่าจะเก็บไว้ในตู้เย็นหลายวันรสชาติคงเดิม และขายในราคาที่จับต้องได้

กนกกัญจน์ มธุรพร

“จุดเริ่มต้นการพัฒนาแบรนด์เอพริลฯนี้เกิดขึ้นเมื่อ 11 ปีก่อนหลังจากลาออกจากการทำงานแอร์โฮสเตส มาทำร้านคาเฟ่ ทำพาย และทำขนม จนกระทั่งพัฒนามาเป็นแบรนด์เอพริล เบเกอรี่ขายในห้างทั่วไป ลงทุนโรงงานแห่งแรก 100 ล้านบาท และเมื่อมีลูกค้าให้ความสนใจทำให้เราขายแฟรนไชส์ได้มากขึ้น ทำให้เรามีหน้าร้านมากขึ้น 40 สาขา กระทั่งร้านเซเว่นฯติดต่อเข้ามาต้องการให้เราขายสินค้าให้ จึงส่งสินค้าให้เซเว่นฯมาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว”

แนวทางในการพัฒนาแบรนด์เรา เน้นใช้คุณภาพ การดีไซน์แพ็กเกจจิ้งให้สินค้าเราเป็นสินค้าที่รสชาติอร่อย มีความสวยงามของแพ็กเกจจิ้งด้วย

สำหรับเป้าหมายในอนาคต บริษัทกำลังขยายโรงงานอีก 1 แห่ง เพิ่มเครื่องจักร 5 ตัว เน้นผลิตสินค้าแช่แข็ง เพื่อเตรียมส่งออกสินค้าต่างประเทศ ขณะนี้มีการติดต่อมาหลายประเทศ ต้องการให้ผลิตโออีเอ็มในแบรนด์ของเขา แต่ตอนนี้กำลังการผลิตเต็ม 100% เพราะความต้องการขนมเปี๊ยะลาวาฯที่เพิ่มขึ้นเป็น 45,000 กล่องต่อวัน ซึ่งในต้นเดือน พ.ค.จะผลิตเพิ่มเป็น 60,000 กล่องต่อวัน หากรวมการผลิตขนมเปี๊่ยะถั่วไข่เค็มจะรวมเป็น 70,000-80,000 กล่องต่อวัน

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า ขณะนี้ต้นทุนการผลิตสินค้าอาหารปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง ไม่ใช่เฉพาะวัตถุดิบ แต่แพ็กเกจจิ้งแจ้งมาว่าน้ำมันขึ้นราคา แพ็กเกจจิ้งก็จะต้องปรับขึ้นราคาด้วย แต่เรายังคงราคาจำหน่ายเท่าเดิม โดยเน้นการบริหารจัดการสต๊อกวัตถุดิบด้วยการซื้อวัตถุดิบลอตใหญ่ เพื่อทำให้เราสามารถบีบราคาได้ถูกลง