ประยุทธ์ สุพัฒนพงษ์ ถกเครียด ฮึ่มมาตรการด่านสุดท้าย บังคับโรงกลั่น

Photo by Mark Felix / AFP

ประยุทธ์ หารือเครียด สุพัฒนพงษ์ ยันขอความร่วมมือโรงกลั่น มาตรการบังคับจะเป็นเรื่องสุดท้ายที่จะทำ

วันที่ 28 มิถุนายน 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาวน์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เปิดภายหลังเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมถึงการเดินหน้าเจรจากับ 6 โรงกลั่นในวันพรุ่งนี้ (29 มิ.ย.65) ว่า นายกรัฐมนตรีเห็นด้วยกับกระบวนการที่ทำอยู่ในขณะนี้ คือ การขอความร่วมมือทุกฝ่าย เพราะการดำเนินการข้อบังคับอะไรก็ขอให้เป็นมาตรการสุดท้าย เพราะต้องใช้ด้วยความระมัดระวังเพราะมีผลกระทบในหลาย ๆ ด้าน

“เขาก็อยากจะใช้เวลาอีกสักนิดหนึ่ง ก็ไม่เป็นไร ผมก็ประสานอยู่เรื่อย ๆ วันนี้มีโอกาสไปประสานกับใครก็จะไปประสาน พวกเรา (นักข่าว) ก็ต้องให้กำลังใจผู้บริหารเค้าด้วย ส่วนพรุ่งนี้จะได้ข้อสรุปหรือไม่ ก็จะพยายาม อาจจะมีวิธีการอื่น ทุกคนมีอำนาจกันหมด ใครจะใช้ตอนไหนอย่างไร หากจะใช้จริงก็มีข้อควรระวังในหลายเรื่อง เพราะมีผลกระทบในวงกว้างได้ เช่น การลงทุน ข้อกฎหมายเอง การคุ้มครองการลงทุน”

เมื่อถามว่า เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาฯ บอกว่า เป็นอำนาจกระทรวงพลังงาน ภายใต้ พ.ร.บ.น้ำมัน นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า “ต้องถามกลับไปอย่างเป็นทางการ อันนี้ดูกันหลวม ๆ ทุกคนมีอำนาจกันใหม่ ใครจะใช้ตอนไหน เมื่อไหร่ อย่างไร หากจะใช้จริงก็มีข้อควรระวังหลายเรื่อง เพราะมีผลกระทบในวงกว้างได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลงทุน ข้อกฎหมายเอง หรือการคุ้มครองการลงทุน”

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวถึงการเสริมสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยว่า ต้องเอางบกลางมาช่วยก่อนในช่วงที่ยังไม่ได้เงินจากโรงกลั่นกับเงินกู้ว่า กระทรวงการคลังดูอยู่ ซึ่งได้ตั้งคณะอนุกรรมการด้านการเงินที่ดูแลเรื่องนี้ และให้ผู้แทนกระทรวงการคลังเป็นประธาน เพื่อศึกษาเรื่องการเพิ่มสภาพคล่อง ถ้าสถานการณ์ยืดเยื้อก็จะเน้นการช่วยเหลือแบบมุ่งเป้ามากขึ้น

เมื่อถามว่า กองทุนน้ำมันสามารถกู้เงินได้แล้วหรือยัง นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า ไม่น่าจะมีปัญหา รอให้กระทรวงการคลังหาวิธีการ มีหลายวิธีการรอการตัดสินใจอยู่ เพราะในอดีตก็เคยกู้ได้ สมัยที่ยังไม่มี พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง

เมื่อถามย้ำว่า ต้องให้กองทุนน้ำมันฯกลับมาเป็นส่วนราชการเหมือนในอดีตหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า ก็หลายวิธีการ วิธีการไหนเหมาะที่สุดก็ใช้วิธีการนั้น

เมื่อถามย้ำอีกว่า การนำกองทุนน้ำมันฯ กลับมาเป็นหน่วยงานราชการเหมือนเดิมเป็นหนึ่งในวิธีการนั้นหรือไม่ นายสุพัฒน์พงษ์กล่าวว่า ตนจำรายละเอียดไม่ได้ แต่ตนไม่เป็นห่วง เพราะเป็นเรื่องที่เคยปฏิบัติกันมา ซึ่งกระทรวงการคลังเข้าใจประเด็นดี