ชวนครูเกษียณ เป็นอาสาสมัครช่วยงานด้านการศึกษาทั่วประเทศ

นายอรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)
นายอรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)

ชวนครูเกษียณเป็นอาสาสมัครกระทรวงศึกษาธิการ ช่วยงานด้านการศึกษาในเขตพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ เตรียมพร้อมก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ 

วันที่ 31 มกราคม 2566 นายอรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ศธ.ได้ตระหนักและเห็นความสำคัญกับสถานการณ์ที่ประเทศไทยกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ เพราะในปี 2566 ประเทศไทยจะมีค่าเฉลี่ยผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น 12% และเพิ่มขึ้นเป็น 28% ในอีก 10 ปีข้างหน้า ถือเป็นสังคมสูงอายุระดับสุดยอด

ขณะที่กลุ่มผู้ว่างงานและอยู่นอกระบบการศึกษา (Non Education Employer Development : NEED) มีมากถึง 1.3 ล้านคน หากปล่อยทุกอย่างเป็นไปตามภาวะปกติ ในทศวรรษหน้าประเทศไทยจะมีแนวโน้มจะเผชิญวิกฤตหนัก ซึ่งจะส่งผลกระทบกับภาคการศึกษา เศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพ

ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการจึงได้วางแนวทางระยะสั้นในการขับเคลื่อนที่สำคัญ ที่จะเปิดรับสมัครอาสาสมัครกระทรวงศึกษาธิการ (อส.ศธ.) ซึ่งเป็นผู้เกษียณอายุ มีจิตอาสา รวมทั้งต้องมีความรู้ ความสามารถในวิชาชีพต่าง ๆ ผ่านระบบออนไลน์

โดย อส.ศธ.ซึ่งกระจายทุกพื้นที่ทั่วประเทศ จะเป็นบุคลากรสำคัญในการดำเนินการร่วมกับกระทรวงแรงงาน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้าไปช่วยพัฒนากำลังคนทุกกลุ่มวัยในระดับพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อเตรียมคนในอนาคต รวมทั้งกลุ่มผู้สูงวัยด้วย

เช่น เป็นครูอาสาสมัครจิตอาสา เพื่อเข้ามาช่วยงานการศึกษา มุ่งเน้นการอ่านออกเขียนได้ของเด็กในชุมชน ป้องกันเด็กออกจากระบบการศึกษากลางคัน แก้ไขเสริมสร้างภาวะความรู้ถดถอยในการเรียนรู้ พร้อมเก็บเป็นฐานข้อมูลการเข้าสู่ระบบการศึกษาต่อไป

เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทย และเป็นการสร้างคุณค่า ความสุขให้กับผู้สูงวัย โดยส่งเสริมผู้สูงอายุกลุ่มที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ ทักษะชีวิตเป็นครูสอนอาชีพ และส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีงานทำและมีรายได้

รวมถึงสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม ควบคู่ไปกับการพัฒนาเด็กที่อยู่ในวัยเรียนให้มีความพร้อมทั้งกาย ใจ สติปัญญา พร้อมรองรับการพัฒนาตามช่วงวัย โดยมุ่งเน้นการอ่านออกเขียนได้ ช่วยเหลือด้านสวัสดิภาพและความปลอดภัย อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมระหว่างสถานศึกษา ครู ผู้ปกครอง ชุมชน และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาการศึกษา

นายอรรถพลกล่าวต่อว่า สำหรับผู้สูงอายุที่มีจิตอาสาและสนใจสมัครเป็นอาสาสมัครกระทรวงศึกษาธิการ (อส.ศธ) ต้องเป็นครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เกษียณอายุราชการ มีความพร้อมที่จะช่วยงานด้านการศึกษา พัฒนาทักษะวิชาชีพตามบริบทในพื้นที่แต่ละจังหวัด หรือเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา (พสน.) หรือเป็นผู้ผ่านการฝึกอบรมด้านอาสาสมัครจากหน่วยงานอื่น

อาทิ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.), อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.), อาสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.), อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.), กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เป็นต้น ในอัตรา 77 จังหวัด ๆ ละ 50 คน รวมทั้งสิ้น 3,850 คน

ซึ่งบุคคลกลุ่มนี้จะต้องได้รับการสร้างความรู้ ความเข้าใจ ถึงบทบาทหน้าที่ของ อส.ศธ. และแบ่งพื้นที่ความรับผิดชอบในการทำงานก่อนลงพื้นที่ โดยส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ และให้ความช่วยเหลือด้านสวัสดิภาพและความปลอดภัยให้กับเด็กที่อยู่ในวัยเรียนในพื้นที่ชุมชน

โดยรับสมัครตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม-14 กุมภาพันธ์ 2566 โดยผู้สนใจสามารถสมัครได้ที่เว็บไซด์ Volunteers. moe.go.th หรือ www.moe.go.th หัวข้อ “ข่าวประชาสัมพันธ์” และสามารถขอรับใบสมัครได้ที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดทุกจังหวัดในเวลาราชการ