การศึกษา

เทรนด์เรียน “ปริญญาออนไลน์” กับมหา’ลัยต่างประเทศ มาแรงยุคโควิด

ที่มาภาพ: REUTERS/Paul Hackett

การแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้คนออกจากกรอบเดิม ๆ และตัดสินใจเรียนปริญญาแบบออนไลน์กับมหาวิทยาลัยต่างประเทศง่ายขึ้น

นักเรียนและนักศึกษามากกว่า 300 ล้านคนทั่วโลกกำลังถูกดิสรับจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา และถึงแม้สถานการณ์ยังไม่แน่นอน แต่การศึกษาคงต้องดำเนินต่อไป โดยปรับเปลี่ยนมาเรียนผ่านระบบออนไลน์จากทางไกลหรือจากที่บ้าน

สำหรับการศึกษาระดับสูง การเรียนออนไลน์ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้น “ประชาชาติธุรกิจ” รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนออนไลน์ระดับอุดมศึกษาทั่วโลก ดังนี้

เทรนด์การเรียนออนไลน์ทั่วโลก

จากการสำรวจของ Statista ใน 29 ประเทศทั่วโลก สำหรับคำถาม ว่า “อีก 5 ปีข้างหน้า คุณคิดว่าการศึกษาระดับอุดมศึกษาจะดำเนินไปอย่างไรในประเทศของคุณ” พบว่ากว่า 23% คิดว่าการศึกษาระดับอุดมศึกษาในประเทศของตนจะดำเนินการทางออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ 49% คิดว่าการเรียนรู้ออนไลน์และการเรียนรู้ด้วยตนเองจะมีความสำคัญเท่าเทียมกันกับการเรียนในห้องเรียน

ทั้งนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามในประเทศซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศอยู่ในอันดับสูงสุด ที่คิดว่าการศึกษาระดับอุดมศึกษาจะเปลี่ยนไปเป็นออนไลน์เป็นหลัก อยู่ที่ 45% ในขณะที่คน 30% เชื่อว่าจะเป็นการผสมผสานระหว่างออนไลน์กับออฟไลน์

ส่วนผู้ตอบแบบสอบถามจากประเทศญี่ปุ่น 13% คิดว่า การศึกษาระดับอุดมศึกษาจะเปลี่ยนไปเป็นออนไลน์เป็นหลัก ในขณะที่ 40% เชื่อว่าจะเป็นการผสมผสานระหว่าออนไลน์กับออฟไลน์

ที่มา: เว็บไซต์ statista

มหา’ลัยดังต่างประเทศเปิดสอนปริญญาออนไลน์

ปัจจุบันมีหลักสูตรออนไลน์จากมหาวิทยาลัยจำที่มีชื่อเสียง เช่น

Middle Georgia State University สหรัฐอเมริกา เป็นสถาบันของรัฐเปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรีออนไลน์ตั้งแต่ปี 2013 สำหรับคนในประเทศและจากต่างประเทศ รูปแบบการรับสมัครเป็นแบบต่อเนื่อง ที่สามารถสมัครได้ตลอดเวลา และเมื่อถูกตอบรับให้เข้าเรียน สามารถเริ่มได้ทันทีในเทอมที่จะมาถึง Middle Georgia State เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยของรัฐที่ราคาไม่แพง สำหรับปริญญาตรีหน่วยกิตละ 3,388 บาท (113 ดอลล่าสหรัฐฯ) มีผู้เรียนสมัครเรียนหลักสูตรออนไลน์แล้วกว่า 2,585 คน

University of the People เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนจากสหรัฐอเมริกา และทำการเรียนการสอนออนไลน์แบบเต็มรูปแบบ ไม่มีห้องเรียน และไม่มีค่าเทอม มีแต่ค่าทำเนียมรายปี ประมาณ 30,431 บาทต่อปี (1,015 ดอลล่าสหรัฐฯต่อปี) ค่าสมัคร 1,799 บาท (60 ดอลล่าสหรัฐฯ) และค่าตรวจข้อสอบสำหรับปริญญาตรีอยู่ที่ 2,998 บาท (100 ดอลล่าสหรัฐฯ) และปริญญาโท 5,596 บาท (200 ดอลล่าสหรัฐฯ)

University of Illinois เป็นสถาบันของรัฐในสหรัฐอเมริกาที่เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรีออนไลน์ตั้งแต่ปี 2007 โดยจัดทำชั้นเรียนออนไลน์ที่มีแพลตฟอร์มข้อมูลแบบเก็บถาวรไว้ เพื่อให้นักเรียนสามารถเข้าถึงเอกสารประกอบการบรรยายได้ตามความสะดวก ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ อยู่ในอันดับที่ 2 จาก 337 ในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาที่ทำการเรียนการสอนออนไลน์ระดับปริญญาตรีได้ดีที่สุด (Best Online Bachelor Programs) และอันดับ 7 ที่มีหลักสูตรธุรกิจออนไลน์ที่ดีที่สุด ซึ่งค่าหน่วยกิตระดับปริญญาตรีอยู่ที่ประมาณเครดิตละ 13,851.45 บาท (462 ดอลล่าสหรัฐฯ)

University of Essex ในประเทศอังกฤษ เปิดสอนในระดับปริญญาตรีและโทแบบออนไลน์ในสาขา MBA กฎหมาย จิตวิทยา การตลาด เป็นต้น ค่าเทอมจะอยู่ที่ประมาณ 376,337 บาท (12,065 ดอลล่าสหรัฐฯ) เป็นสถาบันที่ชนะรางวัลมหาวิทยาลัยแห่งปี (University of the Year) จาก The Times และ Higher Education Awards

และอีกตัวอย่างคือ Open University โดยเป็นผู้นำด้านการเรียนทางไกลจากสหราชอาณาจักร เปิดสอนระดับปริญญา ด้านการออกแบบ การจัดการธุรกิจ คอมพิวเตอร์ กฎหมาย เป็นต้น โดยค่าธรรมเนียมแบบราคาต่อดีกรี อยู่ประมาณ 209,000 บาท

ระยะสั้น/ประกาศนียบัตร

สำหรับคนที่อยากพัฒนาทักษะ เพื่อเปลี่ยนสายงาน อัพสกิล หรือเพิ่มรายได้ ไม่ต้องกลับไปเรียนปริญญาใหม่ให้เสียเวลา สามารถเรียนนหลักสูตรสั้น ๆ พร้อมกับได้ประกาศนียบัตร ที่เป็นที่ยอมรับขององค์กรต่าง ๆ เช่น

Coursera เป็นเว็บที่ทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยทั่วโลกหลายแห่ง เป็นสถาบันออนไลน์แบบ MOOC – massive open online courses ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีคอร์สให้ลงเรียนมากกว่า 2,500 คอร์ส นักเรียนทั่วโลกมากกว่า 37 ล้านคน และสามารถรับใบ certificate ได้

ทั้งนี้ Coursera มีคอร์สให้เลือกเรียน 2 แบบคือ single course (คอร์สเดี่ยว) หรือแบบ specialization (หลายคอร์สรวมกัน) สามารถเลือกเรียนได้แบบฟรีและมีค่าใช่จ่าย โดยคิดค่าลงเรียนเป็นรายเดือน เดือนละ 1,470 บาท (49 ดอลล่าสหรัฐฯ) สำหรับการเรียนฟรีสามารถสมัครได้ทุกคอร์สแต่จะไม่สามารถทำแบบฝึกหัดและแบบทดสอบได้ นอกจากนั้น Coursera ยังมีทุนการศึกษาให้ด้วย แต่ต้องเขียน statement of purpose ว่าทำไมถึงอยากเรียนคอร์สนั้น ๆ ความยาวไม่ต่ำกว่า 150 คำ แล้วทางสถาบันจะรีวิวใบสมัครประมาณ 15 วัน

นอกจากนั้น มี Udemy แพลตฟอร์มการเรียนรู้ด้วยหลักสูตรวิดีโอมากกว่า 130,000 วิดีโอ ที่ทำการสอนโดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญกว่า 57,000 คน ในภาษาต่าง ๆ มากกว่า 65 ภาษา โดยมีหลักสูตรหลากหลายตั้งแต่การเขียนโปรแกรม ไปจนถึงชั้นเรียนพัฒนาตัวเอกเช่นการออกแบบ การวาดภาพ การเขียน และโยคะ โดยเริ่มต้นที่ 399 บาท สามารถขอคืนเงินค่าคอร์สที่ลงเรียนไปแล้วได้ภายใน 30 วัน และมีทั้งหลักสูตรฟรีด้วย

และ edX เว็บไซต์คอร์สเรียนออนไลน์ชื่อดังที่มีจุดเด่นตรงที่ ได้รวมคอร์สเรียนออนไลน์จากมหาวิทยาลัยชื่อดังกว่า 140 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลก อย่างเช่น MIT, Harvard University, UC Berkeley, Stanford, Imperial College London, Cambridge ซึ่งมีสอนตั้งแต่ Programming เขียนโค้ด Computer Science ไปจนถึง Game Theory ซึ่งเป็นมีคอร์สให้เลือกเรียนมากกว่า 2,800 คอร์ส ทั้งแบบฟรีหรือว่าเสียเงิน แต่ถ้าเรียนแบบเสียเงินจะได้ใบประกาศจากมหาวิทยาลัยเจ้าของคอร์สนั้น ๆ