แห่จำนำทองซื้อชุดนักเรียน สำรองค่าใช้จ่ายรับเปิดเทอม

โรงรับจำนำ

พิษโควิด-ค่าครองชีพพุ่ง ผู้ปกครองแห่แปะโป้งพึ่งโรงรับจำนำ ขนทองรูปพรรณ-ทองแท่ง เตรียมเงินไว้เป็นค่าใช้จ่าย ค่าเทอม ค่าชุดนักเรียนให้บุตรหลาน สถานธนานุบาลทั้งในกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด พร้อมใจเงินสำรองเพิ่ม-ลดดอกเบี้ยช่วย

ผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมทั้งปัจจัยจากค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ช่วงเปิดเทอมนี้ บรรดาผู้ปกครองจำนวนมากต้องทยอยนำทรัพย์สินมีค่าต่าง ๆ ไปใช้บริการโรงรับจำนำหนาตามากขึ้นเป็นพิเศษ

สำหรับเตรียมเงินไว้เป็นค่าใช้จ่าย ค่าเทอม ค่าอุปกรณ์การเรียน เครื่องแบบชุดนักเรียนให้บุตรหลาน ขณะที่โรงรับจำนำต่าง ๆ ก็ได้เตรียมสำรองเงินไว้เพิ่มขึ้นกว่าปกติและมีการลดดอกเบี้ยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยภาระผู้ปกครองอีกทางหนึ่ง

โรงรับจำนำคึกคักรับเปิดเทอม

นายสิทธิวิชญ์ ตั้งธนาเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตั้งธนสิน จำกัด ผู้ให้บริการโรงรับจำนำ อีซี่มันนี่ (Easy Money) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การใช้บริการธุรกรรมจำนำช่วง 4 เดือนแรก (ม.ค.-เม.ย.) ที่ผ่านมา เติบโตเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนหนึ่งมาจากการทยอยเปิดประเทศ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลผ่านมาตรการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 ส่งผลให้ผู้ประกอบการ

เช่น โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร เรือนำเที่ยว ตามหัวเมืองท่องเที่ยว เช่น พัทยา ภูเก็ต สมุย เป็นต้น เตรียมตัวเพื่อเปิดกิจการรองรับธุรกิจ จึงนำทรัพย์สินมาใช้บริการจำนำ เพื่อเตรียมสภาพคล่องนำไปใช้หมุนเวียนในธุรกิจ ทั้งปรับปรุงกิจการ ซื้อวัตถุดิบ เป็นต้น

ขณะที่ลูกค้ารายย่อยจะพบว่าในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ จะเห็นว่าธุรกรรมส่วนใหญ่จะเป็นการไถ่ถอนสินทรัพย์กลับคืน เพื่อเดินทางกลับต่างจังหวัด และหลังจากเลยช่วงเทศกาลสงกรานต์ต่อเนื่องเข้าสู่การเปิดภาคเรียน จะพบว่าลูกค้ารายย่อย มนุษย์เงินเดือน-ผู้ปกครองที่สะสมทรัพย์สินเป็นทองคำ จะนำทรัพย์มาใช้บริการจำนำ

เพื่อเตรียมเป็นค่าเล่าเรียนบุตรหลานมากขึ้น โดยบริษัทได้จัดเตรียมวงเงินเพื่อรองรับการทำธุรกรรมในช่วงที่มีการเปิดภาคเรียนไว้โดยเฉพาะเบื้องต้นราว 3,000 ล้านบาท หากความต้องการมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น บริษัทก็สามารถปรับวงเงินรองรับเพิ่มเติมได้

ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนลูกค้าเป็นผู้ประกอบการขนาดเล็ก หรือกลุ่มเอสเอ็มอี มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่กว่า 20% และลูกค้ารายย่อยอยู่ที่กว่า 70% สินทรัพย์ที่ลูกค้านำมาจำนำหลัก ๆ กว่า 90% เป็นทองคำ แต่ตอนนี้พบว่าทองคำปรับลดลง และเห็นเพชรทยอยเพิ่มขึ้น และตามด้วยนาฬิกา และสินค้าแบรนด์เนม

“เราเห็นธุรกรรมส่งสัญญาณดีขึ้นตั้งแต่ 1 พ.ย. 64 โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อยที่ใช้เราเป็นเครื่องมือในการบริหารธุรกิจมากขึ้น หรือหลังสงกรานต์ และก่อนเปิดเทอม 2 สัปดาห์ เราจะเห็นธุรกรรมหนาแน่นของผู้ปกครองที่เอาทรัพย์มาจำนำ เพื่อเตรียมไว้จ่ายค่าเทอม ซื้อเครื่องแบบนักเรียน”

นายสิทธิวิชญ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา 2-3 ปี จะเห็นกระแสพฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไป และใช้ “อีซี่มันนี่” เป็นเครื่องบริหารธุรกิจมากขึ้น เช่น เราเห็นผู้ประกอบการนอกเหนือภาคบริการ เช่น ล้งทุเรียน แถวจังหวัดจันทบุรี ซึ่งจะต้องนำเงินไปเหมาสวนทุเรียนเพื่อนำไปขายต่อ ก็จะนำทรัพย์สินที่มีทองคำ-เพชรมาจำนำเอาสภาพคล่องไปใช้ในการเหมาสวนทุเรียน เป็นต้น

ลดดอกเบี้ยเหลือ 0.25% ต่อเดือน

นายชวินทร์ ศิรินาค รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า สำนักงานสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร (โรงรับจำนำ กทม.) 21 แห่ง จัดโครงการลดดอกเบี้ยรับจำนำเป็นกรณีพิเศษตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2565 รายละเอียดกรณีจำนำไม่เกิน 5,000 บาท ดอกเบี้ย 0.25% ต่อเดือน, จำนำ 5,001-100,000 บาท ดอกเบี้ย 0.50% ต่อเดือน วงเงินจำนำต่อ 1 ราย (บุคคล) รวมไม่เกิน 100,000 บาท

เงื่อนไขต้องมีสำเนาบัตรประจำตัวนักเรียน นิสิต นักศึกษา สำเนาเอกสารแสดงสถานะผู้ปกครอง เป็นต้น โดยสามารถใช้บริการโรงรับจำนำ กทม.ได้ในวันและเวลาราชการ 08.00-16.00 น. โดยไม่หยุดพักเที่ยง

เช่นเดียวกับโรงรับจำนำในต่างจังหวัด นางนุสรา ยันตรโกวิท ปลัดเทศบาลนครเชียงใหม่ กล่าวในเรื่องนี้ว่า เทศบาลได้เตรียมเงินทุนหมุนเวียนไว้สำรองในการรับจำนำช่วงเปิดเทอม จำนวน 600 ล้านบาท สำหรับสถานธนานุบาลทั้ง 5 แห่ง เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2565 พบว่า

มีประชาชนนำทรัพย์สินมาจำนำที่สถานธนานุบาลเพิ่มขึ้น 100% จากเดิมมีผู้มาใช้บริการแต่ละแห่งเฉลี่ย 100-200 ราย เพิ่มขึ้นเป็น 300 ราย ทรัพย์สินที่ประชาชนนำมาจำนำส่วนใหญ่เป็นทองคำแท่ง-ทองรูปพรรณ-เพชรพลอย มีสัดส่วนถึง 90% ที่เหลือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า อาทิ โทรทัศน์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้าและเครื่องมือช่าง เป็นต้น

“ช่วงเปิดเทอมนี้ สถานธนานุบาลทั้ง 5 แห่งลดอัตราดอกเบี้ย โดยคิดดอกเบี้ยรับจำนำ ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม-30 มิถุนายน 2565 เงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ต่อเดือน และเงินต้นเกินกว่า 5,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.00 ต่อเดือน

ตั๋วรับจำนำมีระยะเวลา 4 เดือน ผ่อนผันให้อีก 30 วัน หากไม่มาส่งดอกเบี้ย หรือไถ่ถอนภายในกำหนดเวลา ทรัพย์ก็จะหลุดจำนำ แต่ทั้งนี้ ผู้จำนำยังมีสิทธิ์ที่จะมาขอซื้อทรัพย์ที่หลุดคืนได้”

ขณะที่ นายสมนึก เพชรสังข์ ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมือง จ.พัทลุง เปิดเผยว่า ช่วงการเปิดเทอมปีการศึกษา 2565 มีทรัพย์สินส่วนใหญ่ที่นำมาจำนำกับโรงจำนำจะเป็นทองรูปพรรณ ซึ่งจำนวนเงินที่รับจำนำนั้นในปีนี้จะมากกว่าปี 2564 ที่ผ่านมา ประมาณ 4 ล้านบาท

โดยสถานธนานุบาลเตรียมสำรองเงินหมุนเวียนรองรับไว้ประมาณ 40 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำเพียงร้อยละ 0.25 บาท/เดือน ตั้งแต่เดือนธันวาคม-9 พฤษภาคม 2565 มียอดรวมทั้งสิ้น 139 ล้านบาท มีผู้นำทรัพย์สินมาจำนำเพิ่มขึ้นประมาณ 10%

“ทรัพย์สินที่นำมาจำนำส่วนใหญ่เป็นทองรูปพรรณ เช่นเดียวกันในช่วงการระบาดโควิด-19 ส่วนเครื่องมือทำกิน เครื่องมือประกอบอาชีพ มีบ้างแต่ไม่มากนัก” นายสมนึกกล่าว