เฟ้นหา 7 “กสทช.” จับตา 86 ผู้สมัครฝุ่นตลบ-

เริ่มต้นอย่างคึกคักสำหรับการเปิดรับสมัคร “กสทช.” กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ชุดใหม่ เมื่อ 8-14 ม.ค. 2561 เบ็ดเสร็จจะมี 86 คน ที่เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติ ก่อนขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์ 19-21 ก.พ.นี้ ให้คณะกรรมการสรรหา เลือกให้เหลือผู้สมควรได้รับการคัดเลือกด้านละ 2 คน เพื่อเสนอรายชื่อให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ลงคะแนนเลือกกรรมการ กสทช. 7 คน

โดยความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายและด้านการคุ้มครองผู้บริโภคหรือส่งเสริมสิทธิเสรีภาพ จะแข่งขันดุเดือดสุด เนื่องจากมีผู้สมัครด้านละ 18 คน รองลงไปคือด้านกิจการโทรคมนาคม 12 คน วิศวกรรม 11 คน ส่วนเศรษฐศาสตร์ กิจการโทรทัศน์ กิจการกระจายเสียง สมัครด้านละ 9 คน

ผู้บริหารใต้กำกับ-ทีมบอร์ดเพียบ

ขณะที่ผู้สมัคร 24 คนมียศทหาร-ตำรวจ และยังมีบรรดาผู้บริหารและอดีตผู้บริหารองค์กรที่อยู่ภายใต้การกำกับ “กสทช.” ยื่นใบสมัครเพียบ อาทิ นายพิพัทธ์ ชนะสงคราม กรรมการนโยบาย ไทยพีบีเอส รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ อย่างนายไพทูรย์หิรัญประดิษฐ์ และนายจำลอง สิงห์โตงาม

พลตรีวิเศษศักดิ์ สุนทรเกศ ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายและแผน ททบ.5 นายปรีย์มน ปิ่นสกุล อดีตผู้บริหารดีแทค นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล อดีตรองผู้บริหาร บมจ.ไทยคม

ฟาก บมจ.อสมท มีทั้ง นายวสันต์ภัยหลีกลี้ อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ นายสุระ เกนทะนะศิล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ นายณภัทร วินิจฉัยกุล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่

และยังมีนายกิตติศักดิ์ ศรีประเสริฐ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.กสท. โทรคมนาคม (แคท) นายทศพร ซิมตระการ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่แคท นายอานนท์ ทับเที่ยง และนายยงยุทธ วัฒนสินธุ์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที นายวุฒิดนัย ฐิตะกสิกร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที รวมถึงนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม อดีตประธานบอร์ด ทีโอที

แต่อีกกลุ่มที่ตบเท้ามายื่นใบสมัครไม่น้อย คือ ทีมที่ปรึกษาและอนุกรรมการของกรรมการ กสทช.ชุดปัจจุบัน ได้แก่ นายวิษณุ ตัณฑวิรุฬห์ นายธนกรศรีสุกใส พล.ต.สุพิชาติ เสนานุรักษ์ นายสมชัย ทรัพย์ศิริผล นายต่อพงศ์ เสลานนท์ นายวรรณชัย สุวรรณกาญจน์ รวมถึง พล.อ.อ.คณิต สุวรรณเนตร อดีตรองผู้บัญชการทหารสูงสุด ที่เป็นคณะทำงานของประธาน กสทช. พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี

และยังมี 3 รองเลขาธิการ กสทช. ยื่นใบสมัครด้วย ได้แก่ พล.ต.อ.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร นายภักดี มะนะเวศ รองเลขาธิการ กสทช. คงเหลือรองเลขาธิการ 1 คนเท่านั้นที่ไม่ได้สมัคร

นอกจากนี้ยังมีนายสุรนันท์ วงศ์วิทยกำจร อดีตกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทช.) นายสุพจน์ เธียรวุฒิ อดีตผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม หน่วยงานภายใต้ กทช. และนายสืบศักดิ์ สืบภักดี อดีตผู้เชี่ยวชาญประจำกรรมการติดตามประเมินผลการทำงาน กสทช.

รวมถึงอดีตปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) นางทรงพร โกมลสุรเดช และนางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ใต้สังกัดดีอี

จับตาขาดคุณสมบัติ

แม้ว่าจะมีผู้สมัครถึง 86 คน แต่เมื่อพิจารณาถึง “ลักษณะต้องห้าม” ของกรรมการ ตามมาตรา 7 พ.ร.บ.กสทช. ฉบับปัจจุบัน พบว่า อาจจะมีหลายคนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ โดยเฉพาะมาตรา 7 (12) เป็นหรือเคยเป็นกรรมการ ผู้จัดการผู้บริหาร ที่ปรึกษา พนักงาน ผู้ถือหุ้นหรือหุ้นส่วนในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนหรือนิติบุคคลอื่นใดบรรดาที่ประกอบธุรกิจด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ หรือกิจการโทรคมนาคม ในระยะเวลา 1 ปีก่อนได้รับการคัดเลือก

ทั้งยังต้องมีคุณสมบัติความเชี่ยวชาญเฉพาะไม่น้อยกว่า 10 ปี หากสมัครด้านกิจการกระจายเสียง โทรทัศน์ โทรคมนาคม และด้านการคุ้มครองผู้บริโภคหรือส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชน แต่ในด้านวิศวกรรม กฎหมาย และเศรษฐศาสตร์ ไม่ได้กำหนดระยะเวลาประสบการณ์ แต่ต้อง “ปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง”

คาด พ.ค.ได้บอร์ดใหม่

ส่วนกรอบเวลาในการสรรหา กสทช. แหล่งข่าวภายในสำนักงาน กสทช.เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า พ.ร.บ.กสทช. ไม่ได้กำหนดไว้ว่าต้องสรรหาให้เสร็จสิ้นภายในเมื่อใด แต่กำหนดว่าแต่ละขั้นตอนต้องใช้เวลาไม่เกินเท่าใด คาดว่าราว พ.ค.นี้น่าจะได้บอร์ดใหม่


จากนี้คงต้องลุ้นว่าใครจะมากำกับอุตสาหกรรมแสนล้านของประเทศและดูแลเงินรายได้สำนักงานปีละกว่าหมื่นล้าน รวมถึงกองทุน กทปส. อีกราว 38,000 ล้านบาท