โรงสีใต้ขาดสภาพคล่องแบงก์ไม่ปล่อยสินเชื่อ-

โรงสีสงขลาเครียดแบงก์ไม่ปล่อยสินเชื่อ ขาดเงินซื้อข้าว สะเทือนชาวนาเสียค่าขนส่งขายพื้นที่อื่น ขณะที่โรงสีมีกำลังซื้อกลับเจอเคราะห์ซ้ำ เหตุน้ำท่วมข้าวนครศรีฯ-พัทลุง-สงขลา ทำปี’61 ผลผลิตลดฮวบ 40% ไม่เพียงพอต่อกำลังการผลิต

นายสมศักดิ์ พานิช เจ้าของโรงสีข้าว ทิพย์พานิช และประธานชมรมโรงสีข้าว อ.ระโนด จ.สงขลา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาวะราคาค้าข้าวเจ้า ในปี 2561 แนวโน้มราคาจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 6,500 บาท/ตัน ที่ความชื้น 25-30% ปัจจัยสำคัญมาจากตลาดราคาข้าวที่ส่วนกลาง และกรุงเทพฯ เป็นผู้กำหนดราคา ทำให้ข้าวภาคใต้ต้องดำเนินการตาม หากราคาข้าวทางภาคใต้ตั้งราคาเองไว้สูงกว่า ก็จะไม่ได้รับการบริโภค

นายสมศักดิ์กล่าวว่า สำหรับนาข้าว จ.สงขลา มีประมาณ 250,000 ไร่ มีข้าวประมาณ 12,000 ตัน/ปี และยังมีนาข้าวรายใหญ่ที่ จ.พัทลุง จ.นครศรีธรรมราช ขณะที่โรงสีข้าวใน จ.สงขลา มีอยู่กว่า 35 โรง มีขนาดกำลังการผลิตตั้งแต่ 30 ตัน และกว่า 50 ตัน ช่วงหลังโรงสีเริ่มชะลอตัวไม่มีการลงทุนเพิ่ม เนื่องจากใช้เงินลงทุนกันไปมากในช่วงปี 2557 เพื่อรองรับนโยบายของรัฐบาล เช่น โครงการรับจำนำข้าว อย่างโรงสีข้าวทิพย์พานิช ได้ลงทุนไปประมาณ 20 ล้านบาท ขนาดการผลิต 60 ตัน/วัน

ปัจจุบันโรงสีบางแห่งเกิดขาดสภาพคล่องทางการเงินมาเป็นระยะ ๆ เมื่อไปขอสินเชื่อมาลงทุน เพื่อรับซื้อข้าวจากชาวนา กลับโดนสถาบันการเงิน หรือธนาคารปฏิเสธ ระบุว่าโรงสีข้าว มีความเสี่ยงสูง จึงงดการปล่อยสินเชื่อ ส่งผลกระทบต่อโรงสีข้าวที่ไม่สามารถใช้เงินซื้อข้าวจากชาวนาได้ กระทบชาวนาที่ไม่สามารถขายข้าวให้กับโรงสีในพื้นที่ได้ ต้องส่งข้าวไปขายยังส่วนกลาง และกรุงเทพฯ ต้องเสียค่าใช้จ่ายขนส่งถึง 90 สตางค์/กก. หรือประมาณ 900 บาท/ตัน ซึ่งจะต้องสูญเสียไป

“โรงสีมีความเห็นว่าจะเสนอต่อรัฐบาลให้มีโครงการส่งเสริมสินเชื่อให้โรงสีข้าวที่จะรับซื้อข้าวจากชาวนาเป็นเงินประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ทางโรงสีหลายแห่งประสบปัญหาที่คล้ายคลึงกัน เพื่อเสริมสภาพคล่อง และสนับสนุนช่วยเหลือชาวนาทั้งด้านการตลาด และอื่น ๆ รวมถึงโรงสีข้าวที่ประสบปัญหาและที่ไม่มีความพร้อม สำหรับตลาดรายใหญ่ของโรงสีข้าว คือ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.ยะลา ปัตตานี และ จ.นราธิวาส ที่ชอบบริโภคข้าวพื้นที่ภาคใต้”

ด้านนายสุทธิพร กาฬสุวรรณ เจ้าของโรงสีพัฒนโสภณเจริญพาณิชย์ และนายกกิตติมศักดิ์ สมาคมโรงสีข้าวและกลุ่มชาวนาภาคใต้ เปิดเผยว่า ภาวะราคาข้าวในปี 2561 จะขึ้นอยู่กับผู้ส่งออกข้าวของไทย แต่ขณะนี้ราคาเคลื่อนไหวอยู่ที่ 7,500-7,600 บาท/ตัน ความชื้นที่ 15% แต่ในปี 2561 ข้าวในภาคใต้ 3 จังหวัด จ.พัทลุง นครศรีธรรมราช และ จ.สงขลา ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมประมาณ 30-40% จากผลผลิตข้าวทั้งหมดประมาณ 150,000 ตัน

“ตอนนี้ผลผลิตข้าวภาคใต้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของโรงสี คือมีข้าวเพียง 100,000 ตัน แต่ในขณะที่ปี 2561 โรงสีข้าวมีกำลังการผลิตและสามารถรองรับข้าวได้ถึง 400,000-500,000 ตัน/ปี ดังนั้นในปี 2561 สถานการณ์โรงสีข้าวจึงไม่มีการลงทุน และขยายตัวเติบโต เนื่องจากในปี 2558 ถึง 2560 โรงสีได้มีการลงทุนปรับปรุงพัฒนาโรงสีกันอย่างขนานใหญ่ไปแล้ว”


อย่างไรก็ตามมองว่าโรงสีส่วนมากยังอยู่ในเกณฑ์ดี และบางโรงสีอาจมีปัญหาเรื่องการเงิน ขึ้นอยู่กับภาวะการลงทุน และขยายกิจการจนขาดสภาพคล่องกันเป็นจำนวนหลายโรง แต่ด้วยจำนวนโรงสีที่มากขึ้น ส่งผลดีต่อชาวนาที่ได้ราคาดีขึ้น เนื่องจากโรงสีจะมีการแข่งขันซื้อข้าวเปลือก ขณะที่ปัจจัยการส่งออกก็มีส่วนสำคัญในการกำหนดราคาข้าว