ถึงแม้บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จํากัด (มหาชน) หรือซีจีเอช (CGH) จะก่อตั้งมาเพียง 2 ปีกว่า และมีพนักงานเพียง 13 คน แต่ทุกคนในองค์กรล้วนมี “ใจ” ร่วมกันในการสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสังคมไทย
“ทอมมี่ เตชะอุบล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ กล่าวว่า แม้บริษัทจะเพิ่งก่อตั้งไม่นาน แต่มีนโยบายว่าจะต้องเริ่มทำซีเอสอาร์แล้ว และด้วยบริษัทของเราทำธุรกิจด้านการลงทุน ซึ่งมีเป้าหมายว่าต้องมีผลตอบแทนอย่างยั่งยืน เช่นเดียวกันกับแนวคิดการทำซีเอสอาร์ที่ต้องการทำซีเอสอาร์ที่ยั่งยืน โดยมองว่าการศึกษาเป็นเรื่องยั่งยืนที่สุด
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
“เราจึงพูดคุยกับทางกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเขามีโครงการโรงเรียนที่ต้องการความช่วยเหลือและพัฒนาเป็นพิเศษอย่างเร่งด่วน หรือโรงเรียนไอซียู (ICU) อยู่แล้ว ในการยกระดับโรงเรียนที่ประสบปัญหาวิกฤตทางการศึกษา โดยแต่ละแห่งมีปัญหาแตกต่างกัน จากจุดนี้เรามองว่าสามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ จึงมีการพัฒนาโครงการขึ้นมา ผ่านความคิดเห็นของพนักงานว่าอยากทำประเด็นใดและรูปแบบไหน”
โครงการเอดูเคชั่น ออน วิลส์ บาย ซีจีเอช (Education on Wheels by CGH) จึงเกิดขึ้นภายใต้แนวคิดการลงทุนเพื่อการศึกษาอย่างยั่งยืน (Sustainable Education Investment) เพื่อสะท้อนถึงการลงทุนด้านการศึกษาที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล รวมถึงสามารถสร้างความรู้และทักษะด้านอาชีพอย่างมั่นคงและยั่งยืนให้กับเยาวชนไทยได้ โดยปีนี้เป็นปีแรกที่ซีจีเอชทำกิจกรรมเพื่อสังคมเป็นแคมเปญใหญ่ เพราะมองว่าการลงทุนทำโครงการระยะยาวน่าจะยั่งยืนมากกว่าการทำโครงการเล็ก
ซีจีเอชทำงานร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งทำหน้าที่ในการคัดเลือกโรงเรียนขนาดเล็กและขนาดกลางที่ยังขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนการสอน หรือขาดแคลนครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อเป็นโรงเรียนนำร่องเข้าร่วมโครงการ
ขณะเดียวกัน สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จะคัดเลือกและฝึกอบรมนักเรียนอาชีวศึกษาก่อนที่จะลงพื้นที่ถ่ายทอดความรู้และทักษะความสามารถให้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย รวมถึงเป็นผู้พัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมด้วย
สำหรับเนื้อหาการเรียนรู้มี 3 ด้าน ได้แก่ งานช่างทั่วไป, คอมพิวเตอร์ และการเกษตร แต่ละโรงเรียนสามารถเลือกเนื้อหาที่สนใจได้ ซึ่งองค์ความรู้เหล่านี้จะช่วยเพิ่มพูนความสามารถ และทักษะความชำนาญสายอาชีพ อีกทั้งความรู้และทักษะจะถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น เพราะรุ่นพี่ในโรงเรียนที่ผ่านการอบรมแล้วสามารถถ่ายทอดทักษะและความรู้ทั้ง 3 ด้านให้กับน้อง ๆ ในโรงเรียนได้ นอกจากนั้นนักเรียนยังสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้จากโครงการไปประกอบอาชีพ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับตัวเองและครอบครัวอีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ บริษัทลงพื้นที่ในโรงเรียนประถมศึกษาเขตภาคกลางเมื่อเดือน มิ.ย.ผ่านมา และล่าสุดกับการลงพื้นที่เขตภาคเหนือ ซึ่งเริ่มนำร่องที่โรงเรียนบ้านนากอก อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน โดยจะดำเนินการกับโรงเรียน 50 แห่ง ใน 7 จังหวัดได้แก่ น่าน, พะเยา, นครปฐม, ฉะเชิงเทรา, กาญจนบุรี, หนองคาย และหนองบัวลำภู คาดว่าจะเข้าไปยกระดับให้กับทุกโรงเรียนภายในเดือน ต.ค.นี้
“หลังเดือน ต.ค. เราจะมีการประเมินผลว่าเด็กได้รับประโยชน์อย่างไรบ้าง ในทางเดียวกัน สอศ.ที่จัดการเรื่องหลักสูตร จะมีการวัดผลการสอบด้วยภาคปฏิบัติและข้อเขียน หากนักเรียนชั้นประถมศึกษาสอบไม่ผ่าน นักเรียนอาชีวศึกษาที่มาสอนจะต้องกลับไปสอนซ่อม เพราะคะแนนของเด็กอาชีวศึกษาที่ไปเป็นครูขึ้นอยู่กับคะแนนสอบของน้อง ๆ ด้วย ซึ่งการวัดผลเช่นนี้ทำให้เรามั่นใจกับประสิทธิผลของโครงการมากขึ้น”
“ทอมมี่” บอกว่า ซีจีเอชทำ MOU กับกระทรวงศึกษาธิการ 3 ปี จึงเป็นที่แน่นอนว่า Education on Wheels by CGH เป็นโครงการต่อเนื่อง โดยจะขยายพื้นที่และโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น พร้อมกันนั้นยังมีแผนต่อยอดกิจกรรมเพื่อสังคมด้านการศึกษาไปสู่การแจกทุนการศึกษา ซึ่งเขาตั้งเป้าหมายว่าแต่ละปีจะเพิ่มขนาดและรูปแบบของการทำกิจกรรมเพื่อสังคมไปเรื่อย ๆ เพื่อล้อไปกับการขยายตัวของธุรกิจ
“ในส่วนของบริษัทที่อยู่ใน CGH ไม่ว่าจะเป็น บมจ.ผาแดงอินดัสทรี, บมจ.หลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี, บมจ.คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ และ บมจ.หลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป ต่างก็มีการทำซีเอสอาร์ของตัวเองอยู่แล้ว แต่ในอนาคตเรามองว่าจะร่วมทำซีเอสอาร์กับบริษัทลูกด้วย”
เพื่อให้ซีเอสอาร์ของทุกบริษัทในคันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
