SCB รุกหนักลูกค้า SME ให้คำปรึกษาครบวงจร-

“เอสซีบี” เปิดแนวรบสร้างฐานกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี เสริมสร้างความรู้และแรงบันดาลใจการทำธุรกิจ พร้อมนโยบายมุ่งดูแลลูกค้าอย่างเต็มที่ เปิดบิสซิเนสเซ็นเตอร์ “ให้บริการลูกค้าเอสเอ็มอีโดยเฉพาะ” รวมถึงเปิดช่องทางออนไลน์ Business Link มาร์เก็ตเพลซให้กับเอสเอ็มอี ฟาก ธปท.ผนึกสมาคมธนาคารเดินสายให้ความรู้ผู้ส่งออกรายย่อยเน้นป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน

ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ถือเป็นฐานรากสำคัญของระบบเศรษฐกิจไทย ดังนั้นการที่จะสร้างเศรษฐกิจให้เข้มแข็ง สิ่งสำคัญหนึ่งก็คือการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในแง่มุมต่าง ๆ ทั้งการให้คำปรึกษา ชี้แนะแนวทาง รวมถึงความสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน

เอสซีบีติดอาวุธเอสเอ็มอี

นายธนา เธียรอัจฉริยะ รักษาการ Chief Marketing Officer ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันธนาคารเพิ่มโฟกัสในการเสริมอาวุธให้กับผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีเพิ่มขึ้น เนื่องจากแบงก์ยุคใหม่ต้องทำตัวเป็นประโยชน์กับลูกค้าให้มากที่สุด ซึ่งการเสริมสร้างความรู้และแรงบันดาลใจก็เป็นส่วนหนึ่ง เพราะเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต้องการ เพื่อที่จะสานพลังต่อสู้แข่งขันในโลกธุรกิจปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว

“เอสซีบีพยายามอย่างเต็มที่ที่จะดูแลลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น ลูกค้ากลุ่มเอสเอ็มอีก็ด้วย จะมีทั้งแอปพลิเคชั่นและองค์ความรู้ใหม่ให้เอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่อง เพราะต้องยอมรับว่าเราไม่ได้เป็นเบอร์หนึ่งในตลาดนี้ จึงต้องพยายามมากกว่าในการทำตัวมีประโยชน์มากกว่าเดิม ทีมงานเอสเอ็มอีของเอสซีบีก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะหาวิธีการต่าง ๆ การผลิตความรู้ และแรงบันดาลใจ เช่น การสนับสนุนงานสัมมนา Passion to Profit พลิกมุมคิด สร้างธุรกิจให้ติดลม”

และต่อไปจะมีการเปิด “บิสซิเนสเซ็นเตอร์” ที่ให้บริการสำหรับเอสเอ็มอีโดยเฉพาะขึ้นมา รวมถึงการเปิดช่องทางออนไลน์อย่าง Business Link ที่จะเป็นมาร์เก็ตเพลซให้กับเอสเอ็มอีของเอสซีบีได้มีพื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ และดีลธุรกิจระหว่างกันได้ เป็นต้น

ธปท.หนุน SMEs ป้องกันค่าเงิน

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ในการทำธุรกิจโดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยน จำเป็นที่ผู้ประกอบการต้องบริหารความเสี่ยงในหลายด้าน แต่ที่ผ่านมาเอสเอ็มอียังมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (เฮดจิ้ง) น้อย จึงเกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในมาตรการเพิ่มขีดความสามารถ และส่งเสริมความรู้ให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้เข้าถึงเครื่องมือการทำเฮดจิ้ง โดยจะจัดสัมมนาให้ความรู้และให้เอสเอ็มอีได้ทดลองการใช้สิทธิในการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ (FX Options) โดยไม่ต้องมีวงเงินกับธนาคาร

ทั้งนี้เป็นโครงการความร่วมมือระหว่าง ธปท. สำนักงานวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) สมาคมธนาคารไทย และ 8 ธนาคาร

นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ในฐานะประธานกรรมการ สมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า การจัดอบรมความรู้ FX Options ให้แก่เอสเอ็มอี จะเริ่มในเดือน พ.ย.-ธ.ค. เอสเอ็มอีที่เข้าร่วมอบรมจะได้รับวงเงินค่าธรรมเนียม FX Options บริษัทละ 30,000 บาท ซึ่งจะสามารถครอบคลุมวงเงินการค้าประมาณ 100,000 เหรียญสหรัฐ หรือ 3.3 ล้านบาท โดยคาดว่าโครงการนี้จะช่วยเหลือเอสเอ็มอีได้ประมาณ 17,000 ราย และสามารถป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนในภาพรวมได้ถึง 55,000 ล้านบาท

โครงการจะมุ่งเน้นกลุ่มเอสเอ็มอีที่มียอดขายไม่เกิน 100 ล้านบาท โดยจะเป็นการร่วมกัน 8 ธนาคารจัดสัมมนาในกรุงเทพฯ ส่วนในต่างจังหวัด และมีธนาคารเป็นเจ้าภาพในการดูแลแต่ละภูมิภาค