
ออร์เดอร์พุ่งผลิตภัณฑ์ชุมชน-โอท็อป ของขวัญของฝากเทศกาลปีใหม่ “ศูนย์โอท็อปคอมเพล็กซ์สระบุรี” เร่งมือทำกิฟต์เซต กระเช้าของขวัญหน่วยงาน ธนาคาร โรงงาน ราคาเริ่มต้น 200- 3,000 บาท พร้อมจัดธีมให้เลือกจุใจ 50 แบบ เน้นบรรจุภัณฑ์ที่นำกลับไปใช้ได้ใหม่ เผย “กระเช้ากล้วย ๆ” ฮอตฮิต ด้าน “มหาสารคาม” สุดปลื้ม เสื่อกกบ้านแพง ผ้าไหมลายสร้อยดอกหมาก รองเท้าแม่บ้านโกสุมพิสัยยอดพุ่ง “ตรัง” ตั้งเป้าขาย 5,000 กระเช้า มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
สระบุรีจัด 50 กระเช้าต้นแบบ
- EV จีนทุบราคาเลือดสาด ฉางอานท้ารบ-BYD เกทับลดอีกแสน
- รู้จัก น้ำมัน EURO 5 เริ่มใช้ 1 ม.ค. 67 มีผลกับค่าการตลาดน้ำมันอย่างไร
- เช็กเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เงินเข้าบัญชีวันนี้ 38 จังหวัด
นางนารีรัช อุทัยแสงสกุล ประธานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรพุแค และประธานศูนย์โอท็อปคอมเพล็กซ์พุแคสระบุรี จ.สระบุรี ผู้จำหน่ายสินค้าโอท็อปจังหวัดสระบุรีและทั่วประเทศ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ช่วงปลายปีหรือใกล้เทศกาลปีใหม่ได้จัดทำโครงการกระเช้าบริษัทประชารัฐรักสามัคคี ซึ่งจะเป็นการรวมสินค้าโอท็อปทั้งของจังหวัดสระบุรี เครือข่ายจากบริษัทประชารัฐจังหวัดอื่น ๆ และสินค้าโอท็อปจากทั่วประเทศ มาจัดเป็นกิฟต์เซตและกระเช้าของขวัญ ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 200 บาท และไม่เกิน 3,000 บาท โดยจะมี 2 ลักษณะ คือกระเช้าสำเร็จ และนำสินค้ามาให้จัดกระเช้า
สำหรับปีนี้มีกระเช้าต้นแบบอยู่ประมาณ 50 กระเช้า โดยพรีเซนต์ผ่านผลิตภัณฑ์ชุมชน หรือกระเช้าเล่าเรื่อง ซึ่งจะแบ่งเป็นธีมต่าง ๆ เช่น กระเช้าสดชื่น กระเช้าราบรื่น หรือกระเช้ากล้วย ๆ ซึ่งได้รับความนิยมมาก โดยภายในบรรจุด้วยผลิตภัณฑ์กล้วยที่มีมาตรฐาน เช่น แยมกล้วย ไซรัปกล้วย ชากล้วยจากทั่วประเทศ เช่น กล้วยบันนังสตา จ.ยะลา กล้วยเล็บมือนาง จ.ชุมพร กล้วยตาก จ.พิษณุโลก กล้วย จ.เลย พร้อมทั้งผสมผสานความเชื่อเข้าไป คือทำอะไรก็จะเป็นเรื่องกล้วย ๆ ง่าย ๆ โดยสินค้าที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ประเภทชา อาหารสุขภาพ ขนมกรุบกรอบ เป็นต้น
ขณะที่กลุ่มลูกค้าประเภทธนาคารจะจัดธีมเป็นสีขององค์กรนั้น ๆ เช่น ธนาคารกสิกรไทย กระเช้าและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จะเป็นสีเขียว ธนาคารกรุงศรีอยุธยาจะเป็นเหลืองหรือน้ำตาล หรือธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) สินค้าโอท็อปทั้งหมดจะเป็นของลูกค้าเอสเอ็มอีแบงก์ และเจาะกลุ่มลูกค้ามุสลิมด้วยการจัดสินค้าที่มีตรารับรองมาตรฐานฮาลาลทั้งหมด
“ปีนี้จะเน้นบรรจุภัณฑ์หรือกระเช้าที่สามารถนำกลับไปใช้ได้ใหม่ หรือประยุกต์ใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ได้อีก ไม่ใช่เป็นตะกร้าแบบโบราณ เช่น กระเช้ากระจูด มาจากกลุ่มโอท็อปของ จ.สงขลา พัทลุง นครศรีธรรมราช ภูเก็ต เป็นต้น ถาดไม้ กระบะไม้สน กระเช้ากล่องไม้ ซึ่งปีนี้ทำกระเช้าให้หลากหลายมากขึ้น มีมูลค่าตั้งแต่ระดับเล็กไล่ขึ้นมาตามกำลังซื้อของผู้บริโภค หรือเพื่อให้โอกาสทางการตลาดกับทุกระดับ อีกทั้งเมื่อมีคำสั่งซื้อกระเช้าเข้ามาจึงจะสั่งซื้อสินค้าไปยังกลุ่มต่าง ๆ ทำให้สินค้ายังสดใหม่”
นางนารีรัชกล่าวอีกว่า ยอดขายปี 2559 ช่วงเทศกาลปีใหม่ ศูนย์โอท็อปพุแคจำหน่ายกระเช้าของขวัญมีมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท โดยจำหน่ายกระเช้าของขวัญให้กับเทสโก้ โลตัส มูลค่ากว่า 15 ล้านบาท ขณะที่ปี 2560 รูปแบบได้เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากโมเดิร์นเทรดได้สั่งซื้อเฉพาะสินค้าโอท็อปเท่านั้น เพื่อนำไปจัดกระเช้าเอง ซึ่งปีนี้ก็คาดว่ามูลค่าไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท
ขณะเดียวกันยังได้รับการสนับสนุนจากผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีที่ได้บูรณาการกับภาคส่วนต่าง ๆ และบริษัทประชารัฐรักสามัคคีประชาสัมพันธ์โครงการนี้ให้กับโรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัด ให้ช่วยสั่งซื้อกระเช้าชุมชน ขณะที่ภาคเอกชนในพื้นที่ก็ซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชน สนับสนุนประชาชนให้มีรายได้ ซึ่งเป็นต้นแบบให้จังหวัดอื่น ๆ คาดว่าเดือนพฤศจิกายนนี้จะมีคำสั่งซื้อเข้ามา หากเป็นโรงงานในจังหวัด คำสั่งซื้อจะผ่านทางผู้ว่าฯและอุตสาหกรรมจังหวัด หากเป็นโรงงานของจังหวัดอื่นจะสั่งผ่านบริษัทประชารัฐรักสามัคคีทั่วประเทศ
เสื่อกกบ้านแพงยอดกระฉูด
นางบุญยิ่ง เทศน้อย พัฒนาการจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยถึงยอดขายสินค้าโอท็อปในปีงบประมาณ 2560 (ต.ค. 59-ก.ย. 60) ว่า แม้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศชะลอตัวบ้างแต่ยอดขายก็ยังทะลุเป้ากว่า 1,200 ล้านบาท หากเทียบกับปีก่อนเพิ่มขึ้นกว่า 18% สินค้าที่มียอดขายสูงอันดับ 1 คือเสื่อกกบ้านแพง กลุ่มทองพัฒน์อุ่นทะยา และผ้าไหมลายสร้อยดอกหมาก อ.กุดรัง กลุ่มรองเท้าแม่บ้าน อ.โกสุมพิสัย เนื่องจากเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคในวงกว้าง และส่งออกได้ ซึ่งในปีงบประมาณ 2561 ได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1,400 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20%
สำหรับช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ ตั้งเป้ายอดขายไว้กว่า 1 แสนบาท ซึ่งทุกปีก็ได้รับความร่วมมือจากส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชนเป็นอย่างดี ทำให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้น
ด้านนางทองพัฒน์ อุ่นทะยา ประธานกลุ่มทอเสื่อกกบ้านแพง อ.โกสุมพิสัย กล่าวว่า ช่วงนี้ยอดขายเสื่อกกสูงมาก โดยมีออร์เดอร์จากห้างสรรพสินค้าและพ่อค้าคนกลาง เดือนละกว่า 1 พันผืน นอกจากนั้นยังมีผลิตภัณฑ์จากกกอีกหลายรายการ คาดว่าออร์เดอร์น่าจะเพิ่มขึ้นกว่า 20% เพราะส่วนใหญ่นิยมซื้อไปเป็นของฝาก ฉะนั้นในช่วงนี้หากสนใจสินค้าก็ให้ออร์เดอร์เข้ามาแต่เนิ่น ๆ เพราะหากใกล้ปีใหม่ ถ้าสั่งซื้อจำนวนมากอาจผลิตให้ไม่ทัน
ผ้า/เครื่องแต่งกายขายดี
นายพงศ์สวัสดิ์ ยอดสุรางค์ ประธานเครือข่ายโอท็อปประเภทอาหารระดับประเทศและประธานเครือข่ายโอท็อปจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ผลิตภัณฑ์โอท็อปยอดนิยมจะเป็นกลุ่มของฝาก/ของที่ระลึก เช่น ผ้า เครื่องแต่งกาย เครื่องดื่ม ไวน์ รังนก อาหารสุขภาพ โดยเฉพาะผ้าจะเป็นสินค้ายอดนิยมอันดับต้น ๆ ของประเทศ ทั้งผ้าซิ่นของภาคอีสานและภาคเหนือ ซึ่งขณะนี้ก็กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนสีเสื้อผ้าด้วย จึงคาดว่าสินค้าโอท็อปจะได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น สำหรับยอดขายรวมของจังหวัดสงขลาในปี 2560 แม้ภาวะเศรษฐกิจไม่ดีก็ยังสามารถทำยอดขายได้กว่า 1,000 ล้านบาท
ตรังดันยอดกระเช้า 10 ล้าน
นายณัฐวัตร ตันศิริเสถียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรัง โอท็อป อินเตอร์เทรดเดอร์ จำกัด เปิดเผยว่า เทศกาลปีใหม่นี้ผู้ประกอบการสินค้าโอท็อปจังหวัดตรังได้นำสินค้าโอท็อปมาจัดเป็นกิฟต์เซตและกระเช้าจำหน่ายเพื่อบริการลูกค้าในการซื้อหาไปเป็นของขวัญให้กับเพื่อนและผู้ที่เคารพนับถือ โดยตั้งเป้าจัดกระเช้าทั้งหมด 3,000 กระเช้า และกิฟต์เซตประมาณ 2,000 ชุด จำหน่ายในราคาตั้งแต่ 300-3,000 บาท ขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณของสินค้าที่ใส่ลงไปในกระเช้าหรือกิฟต์เซต โดยตั้งเป้ายอดขายเฉพาะช่วงปีใหม่ไว้กว่า 10 ล้านบาท
ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ได้ด้วย และยังได้ขอความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทุกแห่ง ขอให้ผู้ประกอบการโรงงานต่าง ๆ ช่วยสั่งซื้อกระเช้าของขวัญปีใหม่ที่เป็นสินค้าโอท็อป
ด้านนายสุริยะ กิติบุญญา พัฒนาการจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า จังหวัดตรังมีผลิตภัณฑ์โอท็อปที่มาจดทะเบียนทั้งสิ้น 800 ราย จำนวน 1,200 ผลิตภัณฑ์ ปี 2559 มียอดขายรวมกว่า 1,100 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้ายอดขายเพิ่ม 20% ซึ่งยอดขายจนถึงเดือนกันยายนที่ผ่านมากว่า 1,250 ล้านบาท คาดว่าสิ้นปีอาจทะลุถึง 1,500 ล้านบาทอย่างแน่นอน
สำหรับช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ทางจังหวัดก็ได้ร่วมมือกับผู้ประกอบการโอท็อปจัดกระเช้าของขวัญออกจำหน่าย โดยกระจายทุกชนิดสินค้านำมาใส่กระเช้าอย่างทั่วถึงและหลากหลาย สร้างทางเลือกให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น เช่น กระเช้ากลุ่มอาหาร กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ กลุ่มสมุนไพร ตลอดจนของใช้/ของที่ระลึก โดยเน้นสินค้าต้องมีคุณภาพ สด ใหม่ ไม่หมดอายุ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า และเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับโอท็อปจังหวัดตรัง
ภูเก็ตบูมกระเช้าสินค้าชุมชน
นางมุกดา หลิมนุกูล หัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า กระเช้าสินค้าชุมชนของจังหวัดภูเก็ตได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งทางจังหวัดได้สนับสนุนส่งเสริมให้มีการใช้สินค้าเกษตรชุมชนเป็นของขวัญของฝาก ซึ่งรายได้จะเกิดกับชาวบ้านผู้ผลิตสินค้าอย่างแท้จริง โดยสินค้าเด่นของภูเก็ตที่นิยมจัดในกระเช้าของขวัญ ได้แก่ น้ำพริกกุ้งเสียบ แกงไตปลา เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผ้าถุงเพนต์ ราคาตั้งแต่ 700-4,000 บาท แล้วแต่ขนาดและประเภทสินค้า ซึ่งจะวางจำหน่ายในศูนย์กระจายสินค้าโอท็อป สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ และสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดภูเก็ต ขณะที่ยอดขายโอท็อปในปีงบประมาณ 2560 อยู่ที่ 1,769 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2559 ประมาณ 23%