ผีเสื้อขยับปีก-

คอลัมน์ สามัญสำนึก

โดย สมถวิล ลีลาสุวัฒน์

วันก่อนที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ “ประชาชาติธุรกิจ” จัดงานใหญ่ สัมมนา “ไทยแลนด์ 2018” จุดเปลี่ยนและความท้าทาย

เป็น 4 ชั่วโมงที่บอก “ทิศทาง” ชัดว่าประเทศไทยเริ่มมี “ความหวัง” มีสัญญาณบวกจากภาครัฐและเอกชน

แม้จะมีเสียงวิพากษ์เล็ดลอดว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยยังคงเดินไปแบบไต่ภูเขา เหนื่อยและหนัก ต้องใช้ความอดทนและแรงอึดฮึดเข้าไว้ แรงห้ามหมด และการ์ดต้องไม่ตก

พลังขับเคลื่อนที่น่าจับตา หนีไม่พ้น “อสังหาริมทรัพย์” ที่เป็นภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าสูงมหาศาล

โดยเฉพาะ “ฟันเฟือง” ที่ช่วยให้เงินสะพัดไปทุกช่องทาง ตั้งแต่ภาคการผลิตไปจนถึงแรงงานก่อสร้าง

จะสังเกตเห็นว่า ตั้งแต่เดือน พ.ย. ผู้ประกอบการอสังหาฯต่างทิ้งทุ่นในโค้งสุดท้ายปี 2560 อย่างร้อนแรง สำเร็จบ้าง ล้มเหลวบ้าง แต่ไม่จอดสนิท ยังคงวิ่งไปได้ตามกำลัง “เงินทุน” และ “กลยุทธ์” เฉพาะตัว

เพียงสัปดาห์เดียวมีงานแถลงข่าวเปิดตัวนับ 10 ราย เหมือนน้ำทะลักจากเขื่อน เกมยังคงอยู่ในมือรายใหญ่ท็อปเทน แถมมีรายใหม่เข้ามาร่วมสมรภูมิด้วย

อย่างค่าย “เอพี” ของตระกูล “อัศวโภคิน” “ศุภาลัย” แห่งตระกูล “ตั้งมติธรรม” ปีนี้ลอยลำแล้ว ยอดขายเกินเป้า เหนือความคาดหมาย ตะลุยเปิดโครงการใหม่ปีหน้าอย่างสบายใจ

ยิ่งมีแรงกระตุ้นจาก big event ของ “แสนสิริ” ที่ราชกรีฑาสโมสร ยิ่งทำให้ตลาดตื่นตัว ไม่เหงาหงอย

เพราะ “แสนสิริ” เขี่ยลูกเปิดเกมใหม่ ประกาศสู่ “โกลบอลแบรนด์” ทุ่มเงิน 2,800 ล้านบาท ร่วมลงทุนใน 6 พันธมิตรทั่วโลกที่มุ่งสู่ “ธุรกิจบริการ” เน้นเจาะตลาด “ไลฟ์สไตล์” อย่างน่าสนใจ

อนาคตอสังหาฯ จะไม่จำกัดอยู่แค่ “ที่พักอาศัย” การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่จะแปรเปลี่ยนตามสภาพแวดล้อมและความเจริญของเมือง

ผู้บริโภคจะโหยหาความเป็น “ตัวตน” และ “ความสุข-ความพอใจ” ที่ไม่เหมือนใคร ความยึดติดจะลดน้อยลงการใช้จ่ายจะเต็มที่ เมื่อเกิดความพอใจอย่างถูกจริต

“ของแพง” แบรนด์เนม อาจพ่ายแพ้ของที่ไร้ยี่ห้อ แต่ให้ความรู้สึกเท่ เก๋ ทันสมัยในรูปแบบของตัวเอง

การเดินทาง การท่องเที่ยว จะเป็น “ตลาดใหญ่” ที่สุดในโลกนี้ อยู่ที่ใครจะต่อติด เชื่อมโยง สร้างมูลค่าได้ดีและเร็วที่สุด โดยมี “เทคโนโลยี” เป็นตัวช่วย

ไลฟ์สไตล์บิสซิเนส จะเป็น “จุดขาย” ที่น่าสนุก

นี่คือ เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ “แสนสิริ” ซื้อบางโครงการของ “เพซฯ” เจ้าของตึกมหานครที่สวยและสูงสุดใจกลางเมือง

อย่างน้อยก็ช่วยให้ภาพลักษณ์อสังหาฯโดยรวมไทยเป็นบวก ไม่มีโครงการใดล้มกลางคัน SCB แบงก์ก็เบาใจ

แต่ “เพซฯ” ต้องปรับสถานะทางการเงินเดินหน้าลดหนี้และภาระดอกเบี้ยทุกวิถี แท้จริงแล้ว กลุ่มเพซฯมีมูลค่าที่ดีในตัวเอง เป็นธุรกิจไลฟ์สไตล์ เทรนด์ใหม่ของโลก

มี “ดีน แอนด์ เดลูก้า” และ “จุดชมวิวมหานคร” รวมถึงโรงแรมใน CBD เป็น value add

ภาพหลอมรวมกิจการ ซื้อโครงการ ต่อยอดธุรกิจ สร้างเครือข่าย และผนึกกำลังพันธมิตร จะเห็นมากขึ้นนับจากนี้

เคสที่เกิดขึ้นแล้วอย่าง “ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้” น้องใหม่วงการแค่ 8 ปี เริ่มด้วยเงินทุน 10 ล้าน จากโครงการมูลค่าหลักร้อยมาสู่หลักหมื่นล้าน ย่อมไม่ธรรมดา ถ้าไม่มีตัวช่วย

หลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ระดมทุนซื้อที่ดินและขึ้นโครงการถี่ยิบ “ออริจิ้นฯ” ถูกจับตามอง และเกิดคำถามมากในวงการว่า “เขาคือใคร มาจากไหน”

ยิ่งได้ร่วมทุนกับยักษ์ญี่ปุ่น “โนมูระ” และควบรวมกับ “พราวด์ เรสซิเดนซ์” ของตระกูล “ลิปตพัลลภ” ที่มีมืออาชีพสุดยอดไลฟ์สไตล์ “ธงชัย บุศราพันธ์” ยิ่งทำให้ปังเร็ว

โดยเฉพาะเกมใหญ่ “ปิดดีล” ซื้อที่ดิน 12 ไร่ซอยทองหล่อของเจ้าพ่อชาเขียว “ตัน ภาสกรนที” ที่จะพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสหลายหมื่นล้าน เป็นบิ๊กมูฟ the biggest ที่น่าจับตาพอ ๆ กับ “บิ๊กมูฟ” การลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐ

เป็น “แรงกระเพื่อม” ช่วยประคับประคองให้เศรษฐกิจประเทศไปต่อได้


แต่ใครจะรวย หรือจะรอดในรอบนี้ ต้องดูกันต่อไป