กสิกรไทย เปิดโผ 4 กองทุนจีน-เวียดนาม ลงทุนลดพอร์ตผันผวน

กสิกรไทย

บลจ.กสิกรไทย เปิดโผ 4 กองทุนเด่น หลังเห็นสัญญาณฟื้นตัวในเอเชียโดยเฉพาะจีน-เวียดนาม เน้นเสริมพอร์ต พิชิตความผันผวน พร้อมมอบสิทธิพิเศษ 2 ต่อ สำหรับลูกค้าใหม่ระหว่าง 15 ก.ค.-30 ก.ย.นี้

วันที่ 19 สิงหาคม 2565 นายสุรเดช เกียรติธนากร กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังมีความผันผวนที่ค่อนข้างสูง ทั้งจากสถานการณ์โควิด-19 ความตึงเครียดทางการเมือง และภาวะเงินเฟ้อ อย่างไรก็ดี คาดว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวลงหลังไตรมาสที่ 3 และอัตราการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed จะเริ่มชะลอตัวลง ส่งผลให้ผู้ลงทุนคลายความกังวลและหันมาให้น้ำหนักกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนก่อนเข้าลงทุน

สุรเดช เกียรติธนากร
สุรเดช เกียรติธนากร

ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียโดยเฉพาะในจีนและเวียดนาม อีกทั้งมองว่าภายในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้านี้เป็นจังหวะที่ผู้ลงทุนสามารถทยอยลงทุนได้ จึงขอแนะนำ 4 กองทุนเด่น ได้แก่ K-CHX, K-VIETNAM, K-GINCOME-A(R) และ K-SF

นายสุรเดชกล่าวต่อไปว่า ตลาดหุ้นจีนกลับมามีความน่าสนใจอีกครั้ง โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากนโยบายเศรษฐกิจแบบผ่อนคลาย ซึ่งสวนทางกับประเทศอื่น ๆ ที่มีทิศทางนโยบายเศรษฐกิจเป็นแบบตึงตัวมากขึ้น และจีนไม่ประสบปัญหาภาวะเงินเฟ้อ เนื่องจากไม่ได้อยู่ในวงจรของการขึ้นดอกเบี้ยอย่างสหรัฐและยุโรป จึงทำให้จีนมีความได้เปรียบกว่าประเทศอื่นในมุมของสภาพคล่อง

นอกจากนี้ ระดับราคาหุ้นปัจจุบันต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวในอดีต และได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว เนื่องจากตลาดรับรู้ปัจจัยลบในช่วงที่ผ่านไปเยอะแล้ว โดยกองทุนหุ้นจีนที่น่าสนใจ คือ กองทุน K-CHX มีนโยบายลงทุนในหุ้นจีนขนาดใหญ่ที่สุด 50 ตัวแรกในตลาด A-Share เน้นหุ้นกลุ่ม Old Economy เช่น การบริโภคและการเงิน ที่จะกลับมาเติบโตสูงจากการบริโภคภายในประเทศ ทั้งนี้ หากต้องการลงทุนในระยะยาว พร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีก็สามารถมาลงทุนในกองทุน K-CHINA-SSF และ K-CHINA-RMF ได้

สำหรับอีกหนึ่งตลาดที่น่าจับตาในฐานะ “เสือเศรษฐกิจตัวใหม่ของเอเชีย” นั่นคือ ตลาดหุ้นเวียดนาม ซึ่งมีความน่าสนใจใน 4 มิติ ได้แก่ 1) เศรษฐกิจในประเทศเติบโตได้ดี จากภาคการส่งออกและเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ ในขณะที่ภาวะเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับที่จัดการได้ 2) นโยบายภาครัฐหนุนให้มีการลงทุนจากต่างชาติ โดยมุ่งเน้นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อยกระดับความสามารถสู่การแข่งขันในระดับภูมิภาค 3) จำนวนประชากรวัยแรงงานมีสัดส่วนสูงที่สุดในอาเซียน เอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาว และ 4) ระดับราคาหุ้นยังไม่สูงมากนัก โดยคาดว่าตลาดหุ้นเวียดนามจะเติบโต +17.5% ในปีนี้ และ +19.2% ในปีหน้า

ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย มีกองทุนหุ้นเวียดนามให้เลือกลงทุน 2 รูปแบบ ได้แก่ K-VIETNAM และ K-VIETNAM-RMF ซึ่งทั้ง 2 กองทุนมีนโยบายลงทุนเดียวกัน คือ เน้นลงทุนตรงในหุ้นเวียดนาม และลงทุนบางส่วนในกองทุนรวมต่างประเทศที่ลงทุนในหุ้นเวียดนาม ซึ่งรวมถึง ETF ด้วย โดยในช่วงที่ผ่านมากองทุนมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น สามารถเอาชนะดัชนีชี้วัดได้ในทุกช่วงเวลา

“สำหรับผู้ที่ยังมีความกังวลต่อความผันผวนในตลาด และรับความเสี่ยงได้ปานกลาง ขอแนะนำกองทุน K-GINCOME-A(R) มีนโยบายลงทุนผ่านกองทุนหลัก JPMorg​an Investment Funds-Global Income Fund, Class I (mth)-USD (hedged) ที่กระจายลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลกกว่า 3,000 ตัว เน้นสินทรัพย์ที่มีการจ่ายรายได้สม่ำเสมอ

โดยผู้จัดการกองทุนจะปรับสัดส่วนสินทรัพย์แต่ละประเภทให้เหมาะสมตามสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา ผู้ลงทุนจึงสามารถทยอยลงทุนในกองทุนนี้ได้ในทุกสถานการณ์ อีกทั้งผู้ลงทุนจะยังได้รับผลตอบแทนระหว่างการลงทุนคล้ายกับการได้รับเงินปันผลแต่ไม่ต้องเสียภาษี นอกจากนี้ ผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนในระยะยาว และรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้กับกองทุน K-GINCOME-SSF ซึ่งมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกิน 4 ครั้งต่อปี” นายสุรเดชกล่าว

นายสุรเดชกล่าวเพิ่มเติมว่า ในระหว่างวันที่ 15 ก.ค.-30 ก.ย. 65 บลจ.กสิกรไทย ขอมอบสิทธิพิเศษ 2 ต่อ ให้กับลูกค้าใหม่ที่ยังไม่เคยเปิดบัญชีกองทุนกสิกรไทย โดยต่อที่ 1 : เปิดบัญชีกองทุนกสิกรไทยครั้งแรกผ่าน K PLUS หรือ K-My Funds รับหน่วยลงทุน K-CASH มูลค่า 200 บาท และต่อที่ 2 : ลงทุนในกองทุน K-CHX, K-VIETNAM, K-GINCOME-A(R), K-SF หรือกองทุนอื่น ๆ ที่ร่วมรายการ ผ่าน K PLUS และ/หรือ K-My Funds ทุก 50,000 บาท รับหน่วยลงทุน K-CASH มูลค่า 100 บาท (สูงสุด 2,000 บาท/ท่าน)