เริ่มแล้ว ! ลงทะเบียน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รับ 200-300 บาทต่อเดือน

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ2565 เช็กขั้นตอน เอกสารสำคัญ ช่องทางลงทะเบียน

โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 เปิดลงทะเบียนรอบใหม่วันที่ 5 กันยายนนี้ ประชาชนกลุ่มเป้าหมายสามารถเช็กขั้นตอน จุดลงทะเบียน และเอกสารที่จำเป็นต้องใช้สำหรับการลงทะเบียนได้ที่นี่ 

กระทรวงการคลังเปิดลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ภายหลังคณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการ วงเงิน 5,336.8304 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่กลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในช่วงที่ยังมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

โดยมีรายละเอียดที่สำคัญสำหรับประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ดังนี้

คุณสมบัติผู้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565

  1. สัญชาติไทย
  2. มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
  3. ต้องไม่เป็น ภิกษุ/สามเณร/นักพรต/นักบวช/ผู้ต้องขัง/ผู้ถูกกักกัน/ผู้ต้องกักขัง/บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ฯ/ข้าราชการ/พนักงานราชการ/พนักงาน/ลูกจ้าง/เจ้าหน้าที่/ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานรัฐ/ผู้รับบำเหน็จรายเดือน/ผู้รับบำนาญปกติหรือเบี้ยหวัดจากส่วนราชการ/ข้าราชการการเมือง/ส.ส./ส.ว.
  4. บุคคล รายได้ต่อปีไม่เกิน 100,000 บาท และครอบครัวมีรายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปีไม่เกิน 100,000 บาท
  5. ทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝาก สลาก พันธบัตร และตราสารหนี้ภาครัฐ (บุคคล : ทรัพย์สินทางการเงินต่อปีไม่เกิน 100,000 บาท และครอบครัว : ทรัพย์สินทางการเงินเฉลี่ยต่อคนต่อปีไม่เกิน 100,000 บาท)
  6. ไม่มีวงเงินกู้ หรือมีวงเงินกู้ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง แต่ไม่เกินหลักเกณฑ์ (วงเงินกู้บ้าน น้อยกว่าหรือเท่ากับ 1.5 ล้านบาท, วงเงินกู้รถ น้อยกว่าหรือเท่ากับ 1 ล้านบาท)
  7. ต้องไม่มีบัตรเครดิต
  8. ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังนี้

กรณีผู้ลงทะเบียนไม่มีครอบครัว 

  • ห้องชุด น้อยกว่าหรือเท่ากับ 35 ตารางเมตร
  • ที่ดินแยกจากที่อยู่อาศัย แบ่งเป็น 2 กรณี ได้แก่ ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่น ที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรน้อยกว่าหรือเท่า 1 ไร่ และในกรณีที่ใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตร น้อยกว่าหรือเท่ากับ 10 ไร่
  • ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน) ได้แก่ บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ห้องแถว และตึกแถว น้อยกว่าหรือเท่ากับ 25 ตารางวา, ใช้อยู่อาศัยและใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตร น้อยกว่าหรือเท่ากับ 10 ไร่ หรือในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร น้อยกว่าหรือเท่ากับ 1 ไร่

โดยจะต้องมีขนาดพื้นที่รวมกันทั้งหมด

  • เพื่อการเกษตร น้อยกว่าหรือเท่ากับ 10 ไร่
  • ไม่ใช่เพื่อการเกษตร น้อยกว่าหรือเท่ากับ 1 ไร่

กรณีผู้ลงทะเบียนมีครอบครัว 

  • ห้องชุด
  • กรณีเป็นเจ้าของแยกจากกัน น้อยกว่าหรือเท่ากับ 35 ตารางเมตรต่อคน
  • กรณีเป็นเจ้าของร่วมกัน น้อยกว่าหรือเท่ากับ 35 ตารางเมตร
  • ที่ดินแยกจากที่อยู่อาศัย
  • ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร น้อยกว่าหรือเท่ากับ 2 ไร่
  • ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตร น้อยกว่าหรือเท่ากับ 20 ไร่
  • ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน)

1.บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ห้องแถว และตึกแถว

  • กรณีเป็นเจ้าของแยกจากกัน น้อยกว่าหรือเท่ากับ 25 ตารางวาต่อคน
  • กรณีเป็นเจ้าของร่วมกัน น้อยกว่าหรือเท่ากับ 25 ตารางวา

2.ใช้อยู่อาศัยและใช้ประโยชน์จากที่ดิน

  • เพื่อการเกษตร น้อยกว่าหรือเท่ากับ 20 ไร่
  • หรือในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร น้อยกว่าหรือเท่ากับ 2 ไร่

ทั้งนี้ จะต้องมีขนาดพื้นที่รวมกันทั้งหมด

  • เพื่อการเกษตร น้อยกว่าหรือเท่ากับ 20 ไร่
  • ไม่ใช่เพื่อการเกษตร น้อยกว่าหรือเท่ากับ 2 ไร่

หมายเหตุ – การตรวจสอบสิทธิของผู้ลงทะเบียน ขั้นตอนแรกจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้ (เกณฑ์บุคคล) หากผู้ลงทะเบียนผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์บุคคลโดยมีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ จะมีการตรวจสอบคุณสมบัติตามเกณฑ์ครอบครัว (ถ้ามี) ในขั้นตอนต่อไป

ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 เมื่อไร ?

เปิดลงทะเบียนวันแรกวันจันทร์ที่ 5 กันยายน 2565 ถึงวันพุธที่ 19 ตุลาคม 2565

ระยะเวลาการใช้จ่าย

คาดว่าจะสามารถเริ่มใช้จ่ายได้ช่วงมกราคม 2566

ลงทะเบียนใหม่ทุกคน

การลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ในครั้งนี้ จะเป็นการลงทะเบียนใหม่ทั้งหมด ดังนั้น ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในปัจจุบัน และผู้ที่ไม่เคยมีบัตร จะต้องลงทะเบียนใหม่ทุก vคน โดยสามารถใช้บัตรประชาชนในการรับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ

ลงทะเบียน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้ที่ไหนบ้าง ?

หน่วยงานรับลงทะเบียน 7 หน่วยงาน 

  1. สาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
  2. สาขาธนาคารออมสิน
  3. สาขาธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
  4. สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ
  5. สังกัดกรมบัญชีกลาง ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศ
  6. ภายใต้กระทรวงมหาดไทย สำนักงานเขตกรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต
  7. ศาลาว่าการเมืองพัทยา เมืองพัทยา
  1. กรณีผู้ลงทะเบียนไม่มีครอบครัว

    ต้องนำเอกสารไปยื่นที่หน่วยรับลงทะเบียน

    • แบบฟอร์มลงทะเบียน
    • บัตรประจำตัวประชาชน (ผู้ลงทะเบียน)
  2. กรณีผู้ลงทะเบียนมีครอบครัว

    ต้องนำเอกสารไปยื่นที่หน่วยรับลงทะเบียน

    • แบบฟอร์มลงทะเบียน
    • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (คู่สมรส) พร้อมลงลายมือชื่อ
    • บัตรประจำตัวประชาชน (ผู้ลงทะเบียน)
    • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (บุตร) หรือสำเนาสูติบัตร  พร้อมลงลายมือชื่อกรณีที่คู่สมรสและบุตรของผู้ลงทะเบียนเดินทางมาแสดงตัวที่หน่วยรับลงทะเบียน พร้อมแสดงบัตรประจำตัวประชาชน ไม่ต้องใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน

3. ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนได้ด้วยตนเอง

สามารถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมาลงทะเบียนแทนได้ โดยใช้เอกสาร ดังนี้

  • แบบฟอร์มลงทะเบียน
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (คู่สมรส) พร้อมลงลายมือชื่อ
  • บัตรประจำตัวประชาชน (ผู้ลงทะเบียน)
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (บุตร) หรือสำเนาสูติบัตร พร้อมลงลายมือชื่อเอกสารสำหรับการมอบอำนาจ
  • หนังสือมอบอำนาจ (ดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์โครงการ)
  • บัตรประจำตัวประชาชน (ผู้ได้รับมอบอำนาจ)
  • สำเนาบัตรประจำตัวคนพิการ (ถ้ามี)
  • ใบรับรองแพทย์ (ถ้ามี)

การลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทางออนไลน์

  1. ลงทะเบียนผ่านทาง https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th
  2. หรือ https://welfare.mof.go.th
  • กรณีผู้ลงทะเบียนไม่มีครอบครัว

    • ไม่ต้องยื่นเอกสารที่หน่วยรับลงทะเบียน กรอกข้อมูลผ่านเว็บไซต์เท่านั้น
    • ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนต้องแสดงข้อความ “กระทรวงการคลังได้รับข้อมูลการลงทะเบียนของท่านครบถ้วนแล้ว”
  • กรณีผู้ลงทะเบียนมีครอบครัว

    ต้องนำเอกสารไปยื่นที่หน่วยรับลงทะเบียน (เลือกหน่วยรับลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์)

    • แบบฟอร์มลงทะเบียน
    • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (คู่สมรส) พร้อมลงลายมือชื่อ
    • บัตรประจำตัวประชาชน (ผู้ลงทะเบียน)
    • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (บุตร) หรือสำเนาสูติบัตร พร้อมลงลายมือชื่อกรณีที่คู่สมรสและบุตรของผู้ลงทะเบียนเดินทางมาแสดงตัวที่หน่วยรับลงทะเบียน พร้อมแสดงบัตรประจำตัวประชาชน ไม่ต้องใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน

ทั้งนี้ เมื่อลงทะเบียนตามขั้นตอนเสร็จสมบูรณ์แล้วระบบจะแสดงข้อความว่า

“กระทรวงการคลังได้รับข้อมูลการลงทะเบียนของท่านครบถ้วนแล้ว” ขอให้ผู้ลงทะเบียนเข้ามาตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน ผ่านเว็บไซต์อีกครั้ง โดยกดปุ่ม “ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน” ซึ่งจะทราบผลการลงทะเบียนในวันศุกร์ของสัปดาห์ถัดไป

ดาวโหลดเอกสารโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

เช็กสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ล่าสุด

ผู้ถือบัตรที่จะได้รับเงินทุกวันที่ 1 ของเดือน (ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป) ประกอบด้วย

• วงเงินซื้อสินค้า 200 บาท/เดือน ในกลุ่มที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท
• วงเงินซื้อสินค้า 300 บาท/เดือน ในกลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท
• วงเงินซื้อสินค้าตามมาตรการเพิ่มกำลังซื้อ เดือนละ 200 บาท ตั้งแต่เดือนกันยายน-ตุลาคม 2565
• ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 100 บาทต่อ 3 เดือน ตั้งแต่เดือนเมษายน-มิถุนายน 2565
• ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาท/เดือน ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาท/เดือน ค่าโดยสารรถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL) และ ขสมก. 500 บาทต่อเดือน

ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพเพิ่มเติม ทุกวันที่ 15 ของเดือน ตั้งแต่เดือนเมษายน-กันยายน 2565 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

• ผู้สูงอายุที่มีรายได้ 0-30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินช่วยเหลือ เดือนละ 100 บาท
• ผู้สูงอายุที่มีรายได้ 30,001-100,000 บาทต่อปี ได้รับเงินช่วยเหลือ เดือนละ 50 บาท

เงินส่วนนี้สามารถใช้ชำระค่าสินค้าหรือบริการผ่านเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (เครื่อง EDC) หรือแอปถุงเงินประชารัฐ ที่ร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น หรือร้านค้าประชารัฐของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และสามารถถอนเป็นเงินสดได้ที่ตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทย หรือสาขาของธนาคารกรุงไทย

ผู้ถือบัตรที่จะได้รับเงินทุกวันที่ 18 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้) ประกอบด้วย

• เงินคืนค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือน/เดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน) หรือใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วย/เดือน
• เงินคืนค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือน/เดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาท/เดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรเป็นผู้ชำระเอง)

ผู้ถือบัตรที่จะได้รับเงินทุกวันที่ 22 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้) ประกอบด้วย

• เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ) โดยจะได้รับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563-กันยายน 2565

“ผู้มีสิทธิสามารถติดตามข่าวสารของกรมบัญชีกลางได้จากช่องทางต่าง ๆ ของกรมบัญชีกลาง เช่น Facebook YouTube Instagram Twitter และ CGD Application หรือโทรศัพท์สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 0-2109-2345 และ Call Center กรมบัญชีกลาง 0-2270- 6400 ในวัน เวลาราชการ”

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง