“INGRS” ชูกลยุทธ์ปี’61 กระจายลงทุนเอเชียลดเสี่ยง

หุ้น INGRS หรือ บมจ.อิงเกรส อินดัสเตรียล (ไทยแลนด์) เป็นอีกหุ้นที่มีบริษัทแม่เป็นสัญชาติมาเลเซีย โดยทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนรถยนต์ทั้งในประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และอินเดีย โดยหุ้น INGRS เพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อช่วงเดือน ส.ค.ปี 2560 ที่ผ่านมา

เมื่อเร็ว ๆ นี้ “อิงเกรส” ได้นำทีมสื่อมวลชนไทยเดินทางเยี่ยมชมโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ณ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งถือเป็นสื่อไทยกลุ่มแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าชมทุกซอกทุกมุมของโรงงานผลิต ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่น นำทีมโดยผู้บริหารระดับสูงได้แก่ “ดาโต๊ะ ดร.ราเมลี บิน มูซา” รองประธาน และ “ดาโต๊ะ ดร.เอบี วาฮับ บิน อิสมาอีล” กรรมการ รวมถึงนายอับดุล ราฮิม บิน ฮายี ฮิตัม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของบริษัท

โดยผู้บริหารระดับสูงได้นำทีมงานของ “อิงเกรส” ร่วมให้ข้อมูลอย่างเป็นกันเอง โดยกล่าวถึงในส่วนของแนวโน้มผลดำเนินงานของบริษัทว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2561 (ก.พ. 2561-ม.ค. 2562) จะพลิกฟื้นกลับมาดีขึ้น หลังจากที่คาดว่า ผลดำเนินงานของงบฯปี 2560 (เดือน ก.พ. 2560-ม.ค. 2561) ที่กำลังจะปิดในสิ้นเดือน ม.ค.นี้ น่าจะออกมาใกล้เคียงกับปี 2559 (เดือน ก.พ. 2559-ม.ค. 2560) ที่ทำได้ 3,058 ล้านบาท

“เรายอมรับว่าผลดำเนินงานปี 2560 อาจใกล้เคียงกับปี 2559 หลังจากได้รับผลกระทบจากลูกค้าหลักในมาเลเซีย อย่างค่ายผู้ผลิตรถยนต์ Perodua อยู่ในช่วงเปลี่ยนโมเดล ขณะที่ค่ายโปรตอน (Proton) ก็มีการเปลี่ยนพาร์ตเนอร์ใหม่จากประเทศจีนเข้ามา ซึ่งคาดว่าอาจต้องใช้เวลาในการปรับเปลี่ยนโมเดลใหม่ ซึ่งบริษัทคาดว่าจะได้รับคำสั่งซื้ออย่างชัดเจนมากขึ้นในปี 2561-2562” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าว

สำหรับแนวโน้มผลดำเนินงานปี 2561 ที่ว่าจะพลิกฟื้นดีขึ้น เนื่องจากรายได้ในส่วนของโรงงานในประเทศไทยและอินโดนีเซียมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มมากขึ้น รวมถึงจะมีการรับรู้รายได้เต็มปีจำนวนกว่า 300 ล้านบาทจากโรงงานที่อินเดีย หลังจากช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเป็น 100% จากเดิมถือ 40%

ขณะที่บริษัทจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 75% จากปีก่อนที่อยู่ระดับ 60% เนื่องจากปัจจุบันบริษัทได้รับคำสั่งซื้อใหม่ของแต่ละค่ายรถยนต์ อาทิ 1.โมเดล Perodua New Myvi ในมาเลเซีย 2.Honda New CR-V ในไทยและมาเลเซีย 3.Navara Spain ในไทย และ 4.Mitsubishi X-Pander ในอินโดนีเซีย นอกจากนี้ในปี 2561-2562 ยังได้รับคำสั่งซื้อใหม่อีก 1,115 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 5 ปี

ส่วนด้านการลงทุนของอิงเกรสในปีนี้ จะล้อไปกับแผนยุทธศาสตร์ 5 ปีข้างหน้า (ปี 2561-2565) ที่จะกระจายการลงทุนประเทศหลัก ๆ ให้ครอบคลุมทั่วภูมิภาคอาเซียน ภายใต้ความเชื่อมั่นว่าเทรนด์การผลิตรถยนต์ในภูมิภาคนี้จะเพิ่มมากขึ้นทุกปี จึงเตรียมแผนการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

โดยปีนี้เป็นปีแรกของแผนยุทธศาสตร์ที่วางไว้ คือ บริษัทมีแผนการลงทุนในมาเลเซียอีกกว่า 1,200 ล้านบาท และจะเข้าลงทุนต่อไปยังโรงงานในอินเดียอีก 600 ล้านบาทภายใน 2 ปีข้างหน้า รวมถึงกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการและเจรจากับพันธมิตร (ซึ่งเป็นค่ายรถยนต์จากประเทศเกาหลี) เพื่อเข้าลงทุนในประเทศเวียดนามเพิ่มเติมอีก 1 ประเทศด้วย

ผู้บริหารมีความคาดหวังว่า การกระจายการลงทุนออกไปในหลายประเทศจะช่วยสร้างโอกาสการเติบโตของบริษัทได้ในอนาคต เพราะบริษัทค่ายรถยนต์ต่าง ๆ มักกระจายวอลุ่มการผลิตออกไปหลายประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยง


ผู้ถือหุ้น INGRS คงต้องจับตาทิศทางธุรกิจ “อิงเกรส” จะได้ฤดูเก็บเกี่ยวดอกผลตามเป้าหมายอย่างไร ขณะที่ราคาหุ้น INGRS ล่าสุด (15 ม.ค. 61) อยู่ที่ 1.13 บาท