สนง.สลากฯ เร่งพัฒนาระบบโอนเงินรางวัล สลากดิจิทัล ภายใน 2 ชั่วโมง

นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล

สนง.สลากฯ เร่งพัฒนาโอนเงินรางวัล “สลากดิจิทัล” ภายใน 2 ชั่วโมง ผ่าน G-Wallet บนเป๋าตัง อำนวยความสะดวกผู้ถูกรางวัล โอนเงินออกไปแบงก์ไหนก็ได้ คาดเริ่มได้ต้นปี 2566 พร้อมปรับระบบซื้อ-จองสลากล่วงหน้าแบบสุ่มคัดเลือก แก้ปัญหาขัดแย้งหน้าตู้ ATM 

วันที่ 29 กันยายน 2565 นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สำนักงานสลากฯจะเดินหน้าพัฒนาระบบผู้ที่ถูกรางวัลสลากดิจิทัล เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้ประชาชน โดยขณะนี้ทีมงานกำลังพัฒนาระบบการโอนเงินรางวัล ผ่าน G-Wallet ในแอปเป๋าตังได้ จากเดิมทำได้เพียงมาขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานสลากฯ และผู้บัญชีของธนาคารกรุงไทย ซึ่งหากโอนเงินรางวัลเข้า G-Wallet ในแอปเป๋าตังแล้ว ท่านจะสามารถโอนออกไปยังบัญชีธนาคารต่าง ๆ ได้โดยไม่มีข้อจำกัด

“เราได้พัฒนาระบบการจ่ายเงินรางวัลของสลากดิจิทัล ให้สามารถโอนต่อไปยังบัญชีของธนาคารอะไรก็ได้ และโอนเงินให้ผู้ถูกรางวัลได้ภายใน 2 ชั่วโมง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าจะเริ่มใช้ได้ในเดือนมกราคม 2566”

ทั้งนี้ จากการดำเนินการจำหน่ายสลากดิจิทัล ตั้งแต่งวดวันที่ 16 มิถุนายน 2565 จนถึงขณะนี้ ผ่านมาแล้ว 7 งวด มีผลตอบรับจากผู้ซื้อพึงพอใจที่สามารถซื้อสลากหมายเลขที่ต้องการได้และขึ้นเงินรางวัลสะดวก ง่ายไม่ยุ่งยาก

โดยการจำหน่ายสลากงวด 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา ระยะเวลาในการจำหน่ายสลากดิจิทัลเริ่มใกล้เคียงสมดุล คือใช้เวลาประมาณ 10 วัน และเพื่อให้ผู้ซื้อมีระยะเวลาในการซื้อสลากดิจิทัลมากขึ้น จนถึงใกล้วันออกรางวัล ดังนั้น ในงวดที่ 16 ตุลาคม 2565 จึงได้เพิ่มสลากจากเดิม เป็น 13,964,500 ใบ โดยสลากทั้งหมด เป็นของตัวแทนจำหน่าย 27,929 ราย โดยจะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2565 เวลา 06.00-23.00 น. ทุกวัน จนกว่าสลากจะหมด

“สำหรับเป้าหมายในปีนี้ คือ ตั้งเป้าจำหน่ายสลากราคา 80 บาท ประมาณ 20 ล้านใบ ทั้งในระบบดิจิทัลและจุดจำหน่ายสลาก 80 ซึ่งขณะนี้มีอยู่ 1,047 จุดทั่วประเทศ ซึ่งคนขายจะค่อย ๆ ปรับตัวและเรียนรู้ ในขณะที่ ประชาชนมีทางเลือกในการเข้าถึงสลากราคา 80 บาทมากขึ้น”

ด้านพันโทหนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหาสลากไม่เพียงพอต่อการทำรายการของผู้มีสิทธิทำรายการซื้อ-จองล่วงหน้านั้น สำนักงานสลากฯได้เตรียมแนวทางเพื่อลดปัญหาไว้

โดยจะเปลี่ยนวิธีการทำรายการ จากเดิมที่ผู้มีสิทธิต้องทำรายการด้วยตนเอง โดยไปแย่งกันเข้าคิวทำรายการทั้งที่หน้าตู้ ATM หรือแย่งกันทำรายการผ่านเน็ตแบงก์ หรือแอปเป๋าตัง เปลี่ยนเป็นการที่สำนักงานสลากฯจะดำเนินการสุ่มคัดเลือก หรือแรนดอมในการรับสิทธิทำรายการให้ โดยจะนำจำนวนผู้อยู่ในระบบซื้อจอง 1.7 แสนราย ไปสุ่มคัดเลือกผู้ที่จะได้รับสิทธิ 1 แสนราย จากจำนวนสลากทั้งหมด 5.1 แสนใบ หรือรายละ 5 เล่ม คาดเริ่มกลางเดือน ต.ค. 2565

“ผู้มีสิทธิทำรายการที่ไม่ได้รับการสุ่มคัดเลือกในการจองสลาก สำนักงานจะให้สิทธิในการซื้อสลากให้ในงวดถัดไป เพื่อให้ผู้ซื้อ-จองล่วงหน้ามั่นใจว่า อย่างน้อยในแต่ละงวดจะมีสลากไปจำหน่าย และจะทำการสุ่มคัดเลือกให้ได้ผู้มีสิทธิทำรายการในลักษณะเช่นนี้ สลับกันไปในทุกงวด ดังนั้น จะเป็นการการันตีว่า จะไม่มีผู้ที่ไม่มีสิทธิทำรายการได้ติดต่อกันเกินกว่า 1 งวดอย่างแน่นอน เพราะในปัจจุบัน จำนวนสลากที่อยู่ในระบบซื้อ-จองล่วงหน้านั้น มีจำนวนเพียงพอ กับผู้มีสิทธิทำรายการได้อย่างน้อยกึ่งหนึ่ง”


ส่วนความคืบหน้าการดำเนินการกับตัวแทนจำหน่ายและผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าที่รับสลากจากสำนักงาน แล้วไม่จำหน่ายด้วยตนเอง แต่กลับนำไปจำหน่ายต่อนั้น ล่าสุด พบว่าเป็นสลากของตัวแทนจำหน่ายรายย่อย 166 ราย และเป็นสลากของสมาคม องค์กร มูลนิธิ 87 สมาคม โดยสลากในส่วนของสมาคมที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญา สำนักงานสลากฯได้ดำเนินการปรับลดจำนวนสลากรวม 1,086 เล่ม ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ ยังได้ยกเลิกการลงทะเบียนของผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าที่นำสลากไปขายต่อบนแพลตฟอร์มเอกชน อีก 7,349 ราย และสำนักงานสลากฯยังคงความต่อเนื่องในการตรวจสอบการปฏิบัติของตัวแทนจำหน่ายและผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าให้เป็นไปตามสัญญาอย่างเคร่งครัด