คอลัมน์ : เช็กกระแสหุ้น
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา เปิดทำการเพียง 4 วัน (13-16 ธ.ค.)
โดย “ณัฐชาต เมฆมาสิน” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด กล่าวว่า การที่ตลาดหยุดทำการหนึ่งวัน ทำให้วอลุ่มซื้อขายเบาบางลง ขณะที่การขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้เซอร์ไพรส์ตลาด
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
แต่สิ่งที่เซอร์ไพรส์ คือ รายงานคาดการณ์ดอกเบี้ย (dot plot) ที่ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยแรงในปีหน้าอีกครั้งที่ 0.75% โดยเฉพาะการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยสูงสุด (terminal rate) ปีหน้าที่แต่เดิมมองไว้ที่ 4.9-5% แต่ปรากฏว่าตัวเลขจาก dot plot ของเฟดออกมาที่ประมาณ 5.1% สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์
“ส่งผลให้ตลาดกลับมากังวลเรื่องของภาวะเศรษฐกิจถดถอยมากขึ้น ขณะที่ FTSE ที่จะประกาศรายชื่อหุ้นชุดใหม่ หากหุ้น DELTA ถูกนำเข้ามา จะมีแรงกระเพื่อมพอสมควร เพราะ DELTA มีขนาดมาร์เก็ตแคปที่ค่อนข้างใหญ่ หากเข้ามา ก็อาจจะลดทอนน้ำหนักหุ้นตัวอื่น ๆ ดังนั้น อาจเห็นแรงเทขายเกิดขึ้นได้”
สำหรับในช่วงสัปดาห์ข้างหน้านี้ (19-23 ธ.ค.) “ณัฐชาต” กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยน่าจะยังคง sideway โดยให้แนวรับไว้ที่ 1,600 จุด แต่หากหลุดแนวรับแรก จะลงอยู่ที่ 1,580 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,640 จุด ปัจจัยที่ต้องติดตาม ก็คือ เศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นตลาดที่นักลงทุนคาดหวังถึงการกลับมาพอสมควร
ส่วนปัจจัยภายในประเทศ ก็ต้องติดตามรายงานตัวเลขนำเข้าส่งออกและนำเข้าของกระทรวงพาณิชย์ ว่าจะหดตัวต่อเนื่องจากเดือน ต.ค.หรือไม่ นอกจากนี้ ในวันที่ 20 ธ.ค.มีความเป็นไปได้ว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อาจจะพิจารณามาตรการของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน ซึ่งก็ต้องจับตา
ทั้งนี้ กลยุทธ์การลงทุน หาก ครม.มีการพิจารณามาตรการของขวัญปีใหม่ หุ้นที่แนะนำ ก็จะเป็นหุ้นที่มีความเกี่ยวข้องกับการบริโภคภายในประเทศ อย่างหุ้นกลุ่มค้าปลีก ได้แก่ COM7, HMPRO ขณะที่หุ้นโรงแรม แนะนำ ERW หุ้นสายการบิน แนะนำ BA และหุ้นปั๊มน้ำมัน แนะนำ PTG