MEB เคาะราคาไอพีโอ 28.50 บาท เปิดจองซื้อ 3- 6 และ 7 ก.พ. นี้

MEB

บมจ. เมพ คอร์ปอเรชั่น (MEB) นำธุรกิจ E-Book บริษัทในเครือ CRC เคาะราคาไอพีโอหุ้นละ 28.50 บาท เปิดจองซื้อ 3-6 และ 7 ก.พ. 66  คาดพร้อมเข้าเทรด mai  14 ก.พ. นี้ ระดมทุนสร้างผลการดำเนินงานในอนาคตเติบโตแข็งแกร่ง

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จํากัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท เมพ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (MEB) เปิดเผยว่า ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) ในราคาหุ้นละ 28.50 บาท

โดยจะเปิดให้จองซื้อหุ้นระหว่างวันที่ 3 กุมภาพันธ์ และวันที่ 6-7 กุมภาพันธ์ 2566 และคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า “MEB” ในหมวด บริการ

ทั้งนี้ MEB เสนอขายหุ้น IPO รวมจำนวน 75,500,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 25.17 ของจํานวนหุ้นสามัญที่ออกและชําระแล้วทั้งหมดของบริษัท โดยมีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย 2 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน)

นายรวิวร มะหะสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมพ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (MEB) ในฐานะผู้นำธุรกิจจำหน่ายหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) ผ่านแพลตฟอร์ม meb และ readAwrite ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับอ่านวรรณกรรมออนไลน์ระดับแนวหน้าของประเทศไทย กล่าวว่า แบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนของ MEB มีผลใช้บังคับในวันที่ 31 มกราคม 2566 แล้ว

โดยกำหนดราคาเสนอขายหุ้นที่ 28.50 บาทต่อหุ้น ทำให้จำนวนเงินที่คาดว่าจะได้จากการระดมทุนครั้งนี้อยู่ที่ประมาณ 2,151.75 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์การใช้เงินดังนี้

(1) เพื่อใช้สำหรับการขยายธุรกิจที่อยู่ในแพลตฟอร์มปัจจุบัน (meb readAwrite และ Hytexts) โดยการเพิ่มเนื้อหาวรรณกรรมออนไลน์ ประเภทนิยายและไม่ใช่นิยาย

(2) เพื่อใช้สำหรับการขยายธุรกิจใหม่ ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจปัจจุบันไปยังต่างประเทศ โดยเน้นการใช้ภาษาท้องถิ่นของประเทศนั้น ๆ ไปพร้อมกับซื้อลิขสิทธิ์วรรณกรรมภาษาไทย แปลเป็นภาษาอังกฤษ

(3) เพื่อใช้ในการปรับปรุงพัฒนาแพลตฟอร์มปัจจุบันให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ

“มั่นใจว่า ภายหลังจากการระดมทุนในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทมีศักยภาพในการทำธุรกิจให้มีการเติบโตมากขึ้น รวมทั้งมีความแข็งแกร่งด้านฐานะการเงิน มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น และเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ สอดคล้องกับแผนการขยายธุรกิจของบริษัท เพื่อเปิดโอกาสสำคัญในการต่อยอดธุรกิจ ทั้งการสร้างแพลตฟอร์มใหม่ หรือการควบรวมกิจการ หรือการเข้าซื้อกิจการในอนาคต”

“และต่อยอดความเป็นผู้นำในธุรกิจ ด้วยการพัฒนาแพลตฟอร์มและระบบการดำเนินงาน มุ่งสร้างประสบการณ์ที่พิเศษให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น จะเห็นได้ว่า MEB ยังมีโอกาสและช่องทางการเติบโตทางธุรกิจได้อีกมาก และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้ในอนาคต” นายรวิวรกล่าว

“การกำหนดราคาไอพีโอที่หุ้นละ 28.50 บาท โดยพิจารณาจากการ Bookbuild ของนักลงทุนสถาบันที่แสดงความสนใจในการจองซื้อหุ้น MEB เป็นอย่างมาก ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมและสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ซึ่ง MEB มีผลการดำเนินงานเติบโตโดดเด่นต่อเนื่อง สถานะทางการเงินแข็งแกร่งไม่มีภาระหนี้สินเลย อีกทั้งธุรกิจเกี่ยวกับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Book มีความพิเศษเฉพาะตัว”

ทำให้มีความน่าสนใจในการลงทุนเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกัน มีทีมผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ และมีความรู้ความเข้าใจในอุตสาหกรรมนี้เป็นอย่างดี

“โดยบริหารบริษัทมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน ด้วยความตั้งใจที่จะสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ไปพร้อมกับความมุ่งมั่นที่จะนำคอนเทนต์ต่าง ๆ ของนักเขียนไทยสร้างซอฟต์ พาวเวอร์ สู่ตลาดโลก จึงมั่นใจว่าการเสนอขายหุ้นของบริษัทจะเป็นที่จับตามองอย่างแน่นอน” นายพิเชษฐกล่าวในที่สุด

อนึ่ง ภายหลังการขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ คุณรวิวร มะหะสิทธิ์ และคุณกิตติพงษ์ แซ่ลิ้ม ในฐานะผู้ก่อตั้งบริษัทจะถือหุ้นรวมกันประมาณร้อยละ 18.7 และบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผ่านบริษัทย่อยในกลุ่ม ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่เดิมจะถือหุ้นประมาณร้อยละ 56 ใน MEB