หุ้นไทยจะกลับมาได้หรือเปล่า! บล.ฟิลลิป มองดัชนี SET Index ฟื้นตัวจำกัด 1,510-1,535 จุด แม้คลายกังวลวิกฤตแบงก์สหรัฐล้ม เงินเฟ้อสหรัฐ ก.พ.อ่อนแรง แต่ราคาน้ำมันดิ่งกดดันกลุ่มพลังงาน มูดี้ส์กำลังพิจารณาลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารในสหรัฐอีก 6 แห่ง ลุ้นแรงหนุนจากปัจจัยในประเทศ-ใกล้เลือกตั้ง
วันที่ 15 มีนาคม 2566 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยว่า คาดดัชนี SET Index วันนี้ฟื้นตัวจำกัดบริเวณ 1,510-1,535 จุด แม้ตลาดเริ่มคลายกังวลหลังจากรัฐบาลสหรัฐและทั่วโลกได้ออกมาสร้างความเชื่อมั่นว่าจะสามารถควบคุมวิกฤตในภาคธนาคาร นอกจากนี้เงินเฟ้อสหรัฐเดือน ก.พ.ที่อ่อนแรงลง คาดเป็นปัจจัยหนุนการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม มี.ค.
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
โดย CME FedWatch Tool ให้น้ำหนัก 79% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในทางกลับกันราคาน้ำมันดิบยังคงถูกกดดันจากความวิตกกังวลวิกฤตในภาคธนาคารของสหรัฐ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน โดยราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 4.64% สู่ระดับ 71.33 เหรียญต่อบาร์เรล คาดเป็นแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงานซึ่งมีน้ำหนักในตลาดมาก
นอกจากนี้ปัจจัยลบที่กดดันตลาดอีกคือ 1.นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.กระทรวงสาธารณสุข เผยว่านายกฯ มีคำสั่งถอนการพิจารณาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มออกจากวาระประชุม ครม.เมื่อวานนี้ 2.แบล็กร็อก อินเวสต์เมนต์ อินสติติวต์ คาดเฟด เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปแม้เกิดเหตุการณ์ SVB ล้มก็ตาม 3.มูดี้ส์ ปรับลดระดับความน่าเชื่อถือของ Signature Bank ลงระดับ C และกำลังพิจารณาที่จะลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารในสหรัฐอีก 6 แห่ง
อย่างไรก็ดีคาดได้แรงหนุนจากปัจจัยในประเทศด้วยภาพการเลือกตั้งที่ใกล้เข้ามาทุกที ประกอบกับเมื่อวานนี้คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติขยายระยะเวลาปรับลดอัตราภาษีดีเซลลงลิตรละ 5 บาทไปอีก 2 เดือนตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.-20 ก.ค.
และเห็นชอบปรับเพิ่มความช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มสำหรับผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐเป็น 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน ในช่วงเดือน เม.ย.-มิ.ย. เพื่อช่วยบรรเทาค่าครองชีพประชาชน คาดเป็นปัจจัยหนุนต่อกำลังซื้อผู้บริโภคและหุ้นในกลุ่ม spending
ขณะที่เช้านี้ติดตามการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจจีน ได้แก่ 1.การผลิตในภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.พ. ตลาดคาดขยายตัว 26% YOY เร่งตัวจากเดือน ม.ค.ที่ขยายตัว 1.3% 2.ยอดขายปลีกเดือน ก.พ.ตลาดคาดขยายตัว 3.5% YOY พลิกจากเดือน ม.ค.ที่หดตัว 1.8% ซึ่งจะเป็นการสะท้อนภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน
