
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ร่วง จากความกังวลวิกฤตภาคธนาคารสหรัฐ
วันที่ 15 มีนาคม 2566 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ ดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลังวิกฤตการปิดตัวของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ และธนาคารซิกเนเจอร์ของสหรัฐยังคงสร้างความกังวลให้กับเศรษฐกิจและการใช้น้ำมันโลก โดยสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ (Moody’s) ได้ประกาศปรับลดมุมมองความน่าเชื่อถือของระบบธนาคารสหรัฐจาก “มีเสถียรภาพ” สู่ “เชิงลบ” เพื่อสะท้อนถึงภาวะเสื่อมถอยอย่างรวดเร็วในภาวะของการดำเนินงาน
โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 14 มี.ค. 2566 อยู่ที่ 71.33 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -3.47 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันดิบเบรนต์อยู่ที่ 77.45 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -3.32 เหรียญสหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงปรับตัวแข็งค่าขึ้น ส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบที่ซื้อขายกันในเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐมีราคาแพงขึ้น และน่าสนใจน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 10 มี.ค. 66 ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 1.2 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์น้ำมันเบนซินในฟิลิปปินส์ที่ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ดี อุปทานจากเวียดนามปรับเพิ่มขึ้นจากการกลับมาผลิตของโรงกลั่นในประเทศ
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในเอเชียยังคงแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามตลาดได้รับแรงกดดันจากการผลิตน้ำมันดีเซลของมาเลเซียที่อยู่ในระดับสูง